สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงเทลอาวีฟ ประเทศอิสราเอล เมื่อวันที่ 16 เม.ย. ว่าพล.ท.เฮอร์ซี ฮาเลวี ประธานคณะเสนาธิการทหารร่วมอิสราเอล ลงพื้นที่ฐานทัพอากาศเนวาทิม ในทะเลทรายเนเกฟ ที่อยู่ทางตอนใต้ของประเทศ เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา ยืนยันว่า ฐานทัพแห่งนี้ “ได้รับความเสียหายเพียงเล็กน้อย” จากการโจมตีด้วยขีปนาวุธและโดรนของกองกำลังพิทักษ์ปฏิวัติอิหร่าน ( ไออาร์จีซี ) ที่ต้องการตอบโต้ เหตุโจมตีสถานเอกอัครราชทูตอิหร่านในซีเรีย คร่าชีวิตเจ้าหน้าที่ไออาร์จีซี 7 นาย เมื่อวันที่ 1 เม.ย. ที่ผ่านมา


ทั้งนี้ พล.ท.ฮาเลวียืนยันว่า กองทัพอิสราเอล “จะตอบโต้” การโจมตีของอิหร่าน แต่ไม่ได้กล่าวว่าเมื่อใด ส่วนพล.ร.ต.ดาเนียล ฮาการี โฆษกกองทัพอิสราเอล กล่าวว่า ข้อมูลข่าวกรองของอิสราเอลบ่งชี้ว่า ผู้ที่ทำงานอยู่ในสถานเอกอัครราชทูตอิหร่านที่ซีเรีย “ไม่ใช่นักการทูตแม้แต่คนเดียว แต่เป็นกลุ่มคนซึ่งวางแผนก่อการร้ายกับอิสราเอล”


ด้านนายโมฮัมหมัด จามชิดี รองที่ปรึกษานโยบายการเมืองของประธานาธิบดีอิบราฮิม ไรซี ผู้นำอิหร่าน กล่าวว่า “หมดยุคของความอดทนทางยุทธศาสตร์” หากอิสราเอลยังคงโจมตีเจ้าหน้าที่ และทรัพย์สินของอิหร่านในประเทศแห่งใดอีก การตอบโต้จะรุนแรงยิ่งขึ้นกว่าเดิม


ขณะที่นานาชาติเรียกร้องอิสราเอล “ใจเย็น” และประเมินสถานการณ์ให้รอบคอบ รวมถึงนายแอนโทนี บลิงเคน รมว.กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐ ซึ่งกล่าวว่า รัฐบาลวอชิงตันสนับสนุน “สิทธิอันชอบธรรม” ของอิสราเอล ในการป้องกันตนเอง แต่อิสราเอล “ต้องมีความรอบคอบ” ส่วนประธานาธิบดีโจ ไบเดน ผู้นำสหรัฐ กล่าวว่า ความสนับสนุนนั้น “ต้องไม่เกี่ยวข้องกับการทหาร”.

เครดิตภาพ : AFP