เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา แอบบีย์ ชาร์ป นักโภชนาการสาวจากโตรอนโต ผู้ใช้ .ติ๊กต็อก” ในชื่อของ “abbeyskitchen” ได้โพสต์คลิปที่ได้รับความสนใจอย่างสูงเกี่ยวกับน้ำอัดลมยอดนิยม 2 ประเภทจากแบรนด์เดียวกันคือ “โค้ก”

ในคลิปที่ ชาร์ป โพสต์ไว้ เธอนำน้ำอัดลม “ไดเอต โค้ก” และ “โค้กซีโร่” มาเทียบกันและประเมินว่า แบบไหนที่ดีต่อสุขภาพของคนดื่มมากกว่า โดยทั้งสองอย่างเป็นเครื่องดื่มที่อ้างว่าไม่มีแคลอรี่

ชาร์ป อธิบายว่า ทั้งไดเอตโค้กและโค้กซีโร่มีแอสปาร์แตม (สารให้ความหวานแทนน้ำตาล), กาเฟอีน, แต่งกลิ่นเลียนแบบธรรมชาติและใส่สีเหมือนกัน แต่ความแตกต่างประการสำคัญอยู่ที่ ไดเอตโค้กให้ความหวานจากแอสปาร์แตมเท่านั้น ขณะที่โค้กซีโร่จะใส่ตัวเพิ่มความหวานคือ แอซีซัลเฟม โพแทสเซียม (acesulfame potassium) หรือที่เรียกกันสั้น ๆ ว่า เอซ-เค เข้าไปด้วย

ในกลุ่มคนรักสุขภาพจะถือว่าสารให้ความหวานทั้งสองชนิดนี้ไม่มีประโยชน์ต่อสุขภาพและ “เป็นพิษ” หรือทำลายสุขภาพอย่างร้ายแรง อย่างไรก็ตาม องค์การอาหารและยาแห่งสหรัฐยังคงให้การรับรองว่าสามารถบริโภคได้อย่างปลอดภัยตามปริมาณที่กำหนดไว้

แอสปาร์แตม นั้นให้ความหวานมากกว่าน้ำตาลธรรมชาติถึง 20 เท่า แต่เมื่อปีที่แล้ว ศูนย์วิจัยโรคมะเร็งในความดูแลขององค์การอนามัยโลกได้จัดให้แอสปาร์แตมเป็นสารที่สร้างความเสี่ยงของการก่อโรคมะเร็งในร่างกายมนุษย์ และเรียกร้องให้มีการวิจัยเพิ่มเติมเพื่อหาคำตอบ

@abbeyskitchen

Diet, zero, regular, whatever, if you’re going to drink soda, choose the one you love the most and enjoy it in moderation. #dietsoda #dietcoke #cokezero #foodfreedom #dietitiansoftiktok #aspartame

♬ original sound – Abbey Sharp

ขณะเดียวกัน องค์การอาหารและยาของสหรัฐกลับไม่เห็นด้วยต่อข้อสรุปดังกล่าว โดยอ้างว่าไม่มีข้อบ่งชี้ที่แน่ชัดว่าแอสปาร์แตมไม่ได้เกี่ยวข้องกับการก่อโรคมะเร็งจริง ๆ พร้อมกันนี้ยังแนะนำปริมาณที่เหมาะสมในการบริโภคต่อวันคือ 50 มก. ต่อน้ำหนักตัว 1 กก.

ส่วนสารเอซ-เค นั้นก็มีความหวานมากกว่าน้ำตาลธรรมชาติประมาณ 200 เท่า ซึ่งทางองค์การอาหารและยาของสหรัฐระบุให้เป็นสารปรุงแต่งอาหาร พร้อมกับเน้นย้ำว่าได้พิจารณากรณีศึกษาเกี่ยวกับผลกระทบที่อาจเป็นพิษต่อร่างกายของสารนี้มากกว่า 90 กรณีแล้ว

กระนั้น เมื่อปี 2565 ก็มีรายงานวิจัยจากฝรั่งเศสที่สรุปว่า แอสปาร์แตมเป็นตัวเพิ่มปัจจัยเสี่ยงต่อการเกิดโรคหลอดเลือดสมอง ส่วนเอซ-เคนั้นเป็นตัวเพิ่มปัจจัยเสี่ยงต่อโรคหลอดเลือดหัวใจ

ชาร์ป ชี้ว่าเธอไม่ห่วงเรื่องสารให้ความหวานทั้งสองตัว แต่ถ้าหากเป็นหญิงที่กำลังตั้งครรภ์ ก็ไม่ควรเลือกเครื่องดื่มที่มีสารเอซ-เค เพราะมีการวิจัยมาแล้วว่ามันสามารถส่งผ่านไปยังทารกได้โดยผ่านทางสายรก

นอกจากนี้ ข้อแตกต่างที่สำคัญอีกอย่างหนึ่งคือปริมาณของกาเฟอีน โดยไดเอตโค้กขนาด 12 ออนซ์ (ประมาณ 350 มิลลิลิตร) จะมีกาเฟอีน 46 มก. ส่วนโค้กซีโร่ขนาด 12 ออนซ์จะมีกาเฟอีนอยู่ 34 มก.

ชาร์ป ชี้ว่าไม่ว่าอย่างไร เครื่องดื่มน้ำอัดลม แม้จะเป็นประเภท “ไดเอต” ก็ยังคงถือว่าไม่ดีต่อสุขภาพ ความจริงแล้วในเครื่องดื่มเหล่านี้แทบจะไม่มีสารอาหารทางโภชนาการอยู่เลย มีเพียงรสชาติและให้พลังงานเล็กน้อย ดังนั้น ไม่ว่าจะเป็นโค้กแบบ “ไดเอต” หรือ “ซีโร่” ก็ไม่ค่อยประโยชน์หรือโทษต่างกันมาก หากต้องการดื่มก็แค่เลือกแบบที่ชอบและอย่าดื่มมากเกินไปเท่านั้น

อย่างไรก็ตาม เจนนี เบธ ครอปลิน นักโภชนาการจากแนชวิลล์ก็มีคำเตือนเรื่องสารให้ความหวานเหล่านี้ว่า แอสปาร์แตมและเอซ-เคไม่มีผลทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดเพิ่มขึ้นหลังจากที่ดื่มเข้าไปก็จริง แต่สารสังเคราะห์เหล่านี้อาจกระตุ้นให้เกิดการหลั่งอินซูลินเพิ่มขึ้นได้ หลังจากดื่มเข้าไปแล้วสักระยะหนึ่ง

ที่มา : nypost.com

เครดิตภาพ : GETTY IMAGES