ดร. นาเดีย นาโด จากมหาวิทยาลัยลาวาล รัฐควิเบก ประเทศแคนาดา เผยแพร่รายงานกรณีศึกษาของคนไข้นิรนามเพศชายรายหนึ่งที่ต้องทนทุกข์ใจมาตั้งแต่วัยเด็ก เพราะคิดว่านิ้วมือ 2 ข้างจากมือซ้ายของเขาไม่ใช่อวัยวะของตัวเอง 

ตลอดชีวิตที่ผ่านมาของคนไข้ชายคนนี้ เขารู้สึกทรมานใจมาโดยตลอดเพราะเชื่อว่านิ้วมือทั้งสองเป็นสิ่งแปลกปลอมและทำให้เขามีอาการปวด, ไม่สามารถใช้มือทั้งสองข้างได้อย่างคล่องแคล่ว ตลอดจนส่งผลกระทบทางอารมณ์ ทำให้เขาเป็นคนหงุดหงิด ฉุนเฉียวง่าย มักนอนหลับฝันร้ายว่านิ้วมือทั้งสองนั้นกำลังเน่าหรือไหม้พุพอง 

คนไข้ผู้นี้ไม่เคยเล่าความรู้สึกหรืออาการป่วยของเขาให้ครอบครัวรับรู้เพราะความอาย แต่เขามักจะนึกฝันถึงการตัดนิ้วทั้งสองข้างของตัวเองทิ้งไป

ดร. นาโด เขียนในรายงานว่า คนไข้รายนี้ทำงานอยู่ในโรงเลื่อย เขาจึงคิดสร้างแท่นตัดแบบกิโยตินเล็ก ๆ ขึ้นมาเพื่อตัดนิ้วตัวเองออกไป เขาเข้าใจดีว่าการทำลายอวัยวะทิ้งไปไม่ใช่ทางแก้ปัญหาที่ปลอดภัย และเข้าใจดีว่าการกระทำเช่นนั้นจะส่งผลกระทบอย่างไรต่อสุขภาพและตัวตนของเขา รวมถึงความสัมพันธ์ของเขากับคนอื่น ๆ แต่เขาไม่สามารถทนมีชีวิตอยู่ต่อไปได้โดยที่ยังมีนิ้วทั้งสองข้างนั้นอยู่ด้วย

เนื่องจากไม่พบความผิดปกติในสมองของคนไข้รายนี้ ทีมแพทย์จึงเสนอทางเลือกการรักษาแบบที่ไม่ต้องมีการผ่าตัด เช่น เข้ารับการบำบัดทางพฤติกรรม, รับยาต้านอาการซึมเศร้าและยาลดอาการที่เกิดจากภาวะทางจิต รวมถึงการบำบัดด้วยวิธีการเผชิญหน้ากับความกลัว แต่ไม่ประสบผลสำเร็จเลยแม้แต่น้อย

หลังจากที่มีการประเมินทางจิตของคนไข้รายนี้ สรุปได้ว่าเขาประสงค์ที่จะตัดนิ้วออกด้วยความเต็มใจ จึงมีการส่งตัวไปยังแผนกศัลยกรรมกระดูกและข้อ และสรุปสุดท้ายได้ว่า การตัดนิ้วทั้งสองข้างตามที่เขาร้องขอคือวิธีการรักษาที่ดีที่สุด 

อาการปป่วยของคนไข้รายนี้คือโรคที่เรียกว่า Body integrity identity disorder (BIID) ผู้ป่วยจะมีความต้องการกำจัดอวัยวะบางส่วนของตัวเองทิ้งไป เพราะรู้สึกว่าอวัยวะนั้น ๆ ไม่ใช่ของตัวเอง แต่เป็นสิ่งแปลกปลอม ซึ่งทำให้เกิดอาการทางจิตตามมา ดังเช่นที่เกิดขึ้นกับคนไข้ชายรายนี้

หลังจากที่ผ่าตัดไป 6 เดือน คนไข้รับการประเมินผลการรักษาอีกครั้ง และสรุปได้ว่าการรักษาประสบความสำเร็จอย่างดี ดร. นาโด ระบุว่า หลังจากผ่าตัดนิ้วทิ้งไปแล้ว คนไข้ก็หยุดอาการฝันร้ายได้ในทันที และอาการซึมเศร้าหายไปอย่างรวดเร็ว ไม่มีการแสดงออกถึงความรู้สึกเสียดายหรือเสียใจที่ตัดนิ้วตัวเองทิ้ง คนไข้สามารถใช้ชีวิตได้อย่างไร้ความกังวลซึ่งเคยมีมาก่อนหน้าที่ยังมีนิ้วมือครบ เนื่องจากการตัดนิ้วทิ้งไปนั้น ทำให้ตัวตนทางกายภาพของเขาตรงกับภาพตัวตนที่อยู่ในใจของเขาเอง

ที่มา : odditycentral.com

เครดิตภาพ : GETTY IMAGES