สำนักข่าวเอเอฟพี รายงานจากกรุงวอชิงตัน สหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 21 มี.ค. ว่า ผู้ต้องหาทั้งสองคนถูกกล่าวหาว่า ยิงนกมากกว่า 3,600 ตัวในรัฐมอนแทนา รวมถึงนกอินทรีหัวขาว และนกอินทรีทอง ในการฆ่าเพื่อความสนุกสนานอย่างผิดกฎหมาย ซึ่งแบรนสัน รับสารภาพว่า เขามีส่วนร่วมกับแผนการขายซากนกในตลาดมืด
สำนักงานอัยการสหรัฐ ประจำเขตมอนแทนา ระบุว่า แบรนสัน มีความผิดฐานสมรู้ร่วมคิด 1 กระทง ลักลอบค้านกอินทรีหัวขาว และนกอินทรีทองอย่างผิดกฎหมาย 2 กระทง และละเมิดกฎหมายเลซีย์ อีก 1 กระทง ซึ่งกฎหมายข้างต้น เป็นกฎหมายของรัฐบาลกลางสหรัฐ ซึ่งห้ามไม่ให้ขายสัตว์ป่า ที่ได้มาอย่างผิดกฎหมาย
“แบรนสันต้องโทษจำคุก 5 ปี และปรับ 250,000 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 9 ล้านบาท) ในข้อหาสมรู้ร่วมคิด และความผิดที่เกี่ยวข้องกับกฎหมายเลซีย์” อัยการ กล่าวเพิ่มเติม
เมื่อเดือน ธ.ค. ที่ผ่านมา คณะลูกขุนใหญ่ยื่นฟ้องแบรนสัน และนายไซมอน พอล จำเลยร่วมของเขา จากรัฐมอนแทนา ในความผิด 15 กระทง ซึ่งส่วนใหญ่เป็นข้อหาลักลอบค้านกอินทรีอย่างผิดกฎหมาย อย่างไรก็ตาม อัยการเห็นชอบลดความผิดของแบรนสันเหลือ 11 กระทง ส่วนพอล ไม่ได้ปรากฏตัวในศาล และยังอยู่ระหว่างการหลบหนี
ตามรายละเอียดในคำฟ้อง แบรนสันกับพอล ขายปีกนกอินทรี หางนกอินทรี และนกอินทรีทั้งตัวในครั้งหนึ่ง ซึ่งแม้อัยการไม่ได้ระบุถึงจำนวนเงินที่ทั้งสองคนได้รับจากการขาย แต่ชี้ว่าชิ้นส่วนนกเหล่านั้น ทำให้พวกเขา “ได้รับเงิดสดจำนวนมหาศาล”
อนึ่ง การฆ่านกอินทรีหัวขาว ถือเป็นเรื่องที่ฉาวโฉ่อย่างมากในสหรัฐ เนื่องจากพวกมันเป็นสัญลักษณ์ประจำชาติ และเคยถูกกำหนดให้เป็น “สัตว์ใกล้สูญพันธุ์”.
เครดิตภาพ : AFP
