เมื่อวันที่ 22 มี.ค. ที่รัฐสภา นายปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล สส.บัญชีรายชื่อพรรคก้าวไกล ในฐานะประธานคณะประสานงานพรรครวมฝ่ายค้าน (วิปฝ่ายค้าน) กล่าวถึงผลการประชุมในวันนี้ ว่า พรรคร่วมฝ่ายค้านมีมติเอกฉันท์ เห็นตรงกันว่า จะลงมติไม่เห็นชอบร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2567 ส่วนกระแสข่าวการโหวตไม่เห็นชอบจากพรรคร่วมรัฐบาล เพื่อคว่ำร่าง พ.ร.บ.งบฯ นั้น ตนยังไม่ได้ยินข่าวเรื่องนี้เลย ต้องจับตากันดูว่า จะเกิดเหตุการณ์ใดๆ ขึ้น โอกาสคงเป็นไปได้ยากในวาระนี้ ต้องจับตาดูกันต่อไป ถ้าเกิดขึ้นก็แปลว่า มีรอยแตกร้าวในพรรคร่วมรัฐบาล หรือมีการแก่งแย่งชิงอำนาจที่หลายฝ่ายอาจจะลือกันมาแล้วก่อนหน้านี้ ว่าจะมีการแย่งเก้าอี้นายกรัฐมนตรีกันหรือไม่ ถ้าข่าวลือเป็นจริง ก็คงจะได้เห็นกันว่า ที่ผ่านมามีอะไรเกิดขึ้นบ้าง ในการร่วมรัฐบาล

นายปกรณ์วุฒิ กล่าวว่า สำหรับบทลงโทษ หากมีสมาชิกในพรรคร่วมฝ่ายค้านโหวตเห็นชอบร่าง พ.ร.บ.งบฯ นั้น ตนไม่ได้มองว่าเป็นบทลงโทษ แต่มองว่าเป็นการปฏิบัติร่วมกันตามมติที่มีในพรรคร่วมฝ่ายค้าน ถ้าไม่ได้ปฏิบัติตามมติ ตนก็คิดว่าเป็นไปตามสัดส่วน อย่างครั้งที่แล้ว มีพรรคเล็กที่ไม่ได้ลงมติตามวิปฝ่ายค้าน เวลามีโควตาอะไร เราก็ต้องไม่นับเขาเป็นพรรคร่วมฝ่ายค้าน เพราะเขาไม่ทำตามมติ ก็เป็นตามปกติ ไม่ได้มีการลงโทษอะไร

เมื่อถามว่า หากรอบนี้เกิดขึ้นจะทำอย่างไร นายปกรณ์วุฒิ กล่าวว่า ก็คงเหมือนๆ กัน มี สส. กี่คน ก็นับสัดส่วนไปตามนั้น ส่วนการลงโทษของพรรคนั้นๆ ที่จะลงโทษ สส. ที่ไม่ปฏิบัติตามมติวิปฝ่ายค้าน ก็เป็นเรื่องของพรรคๆ นั้น ตนมีหน้าที่ในการดูแลพรรคร่วมฝ่ายค้านทุกพรรค คงไม่มีสิทธิไปลงโทษใคร

เมื่อถามว่า ถ้าในส่วนพรรคก้าวไกล หากมีคนโหวตเห็นชอบ จะสะท้อนถึงความเห็นของพรรคเพื่อไทยหรือไม่ นายปกรณ์วุฒิ กล่าวว่า “ผมมั่นใจว่า ไม่มี 100%“

ส่วนโอกาสที่จะมีการดึงนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง ลง แล้วดัน พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรีแทน นายปกรณ์วุฒิ กล่าวว่า “ถ้าถามผม ผมถามว่า เอาจริงเหรอครับ ผมถามแค่นี้แหละ” พร้อมกล่าวต่อว่า ตนถามกับสังคมดีกว่าว่า 4 ปีที่ผ่านมา สังคมรู้สึกอย่างไร หากเรามีนายกรัฐมนตรีที่ชื่อ พล.อ.ประวิตร

ผู้สื่อข่าวถามย้ำว่า แต่ก็มีโอกาสถ้าคว่ำนายเศรษฐาได้ นายปกรณ์วุฒิ นิ่งไปสักครู่ พร้อมกล่าวว่า “เอ๊ะ นี่เราเลือกนายกฯ ตามความต้องการของประชาชน หรือความต้องการของอะไรกันแน่ครับ ผมว่ามันเป็นเรื่องการแก่งแย่งอำนาจ โดยที่ไม่มีประชาชนอยู่ในสมการ ผมว่าประชาชนก็น่าจะรับรู้ว่า สุดท้ายแล้วไม่ได้เป็นประโยชน์กับสังคมหรือประเทศชาติ”.