หลังจากที่ “เสี่ยฟลุ๊ค” ธนวัชร นิติกาญจนา ประธานสโมสร ราชบุรี เอฟซี ดาลเดือดสุดๆ จวก “อัปยศ, เลวร้าย” หวังว่า “กรรมจะตามสนอง” หลังจากไม่ได้ประตูตีเสมอ จากเกมไทยลีก ที่ ราชบุรี บุกแพ้ สุโขทัย เอฟซี 0-1 วันที่ 30 มี.ค. 67

อ่านข่าว : อดประตูตีเสมอ! ‘เสี่ยฟลุ๊ค’เดือดไฟลุก จวก ‘อัปยศ-เลวร้ายที่สุด’ ลั่น ‘กรรมจะตามสนอง’

ล่าสุด ช่วงเที่ยงวันที่ 31 มี.ค. 67 เสี่ยฟลุ๊ค โพสต์อีกชุด คราวนี้ยาวกว่าเดิม ชี้ตัดสินผิดได้ แต่ต้องดูที่เจตนา เชื่อจังหวะปัญหา เกมดังกล่าว แสดงให้เห็นถึงเจตนาที่เลวร้าย ยืนยัน ถ้ากำจัดผู้ตัดสินคนนี้ออกไปไม่ได้ จะขอลาออกเอง จะทำให้แฟนบอลได้ดูบอลอย่างปราศจากมารผจญ

ข้อความระบุว่า

ผมขอพูดถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแบบนี้นะครับ

หลังจากได้มีการเลือกตั้งนายกสมาคมฟุตบอล ผมก็ได้เข้าร่วมประชุม 1 ครั้งกับสมาคมในฐานะสภากรรมการ 2 ครั้งประชุมไทยลีกในฐานะประธานสโมสรราชบุรี เอฟซี

ทุกครั้งก็จะมีการพูดถึงประเด็นผู้ตัดสินในหลายๆแง่มุม

1 ในนั้นก็คือการทําหน้าที่ผิดพลาดของผู้ตัดสิน สําหรับผมผมคิดว่าคนเราสามารถทําผิดพลาดกันได้ “แต่มันต้องดูที่เจตนา”

สีขาวก่อนจะเปลี่ยนเป็นดํา มันจะเป็นสีเทาก่อน แต่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในเกมเมื่อวาน มันไม่เป็นเทาเลย มันคือการทําขาวเป็นดํา ที่ผู้มีอำนาจใช้อํานาจในทางที่ผิด

ผู้ตัดสินยืนอยู่ใกล้มากๆ จากจุดเกิดเหตุ เห็นทุกอย่างชัดเจน ตอนแรกผู้ตัดสินเลือกที่จะปล่อยให้เกมไหลไปก่อนโดยไม่เป่าฟาวล์ในทันที แต่พอบอลมาเข้าทางเราแล้ว เรามีโอกาสยิง ทันใดนั้นผู้ตัดสินเลือกที่จะตัดเกมเพื่อตัดโอกาสการตีเสมอ

การที่ผู้ตัดสินอยู่ใกล้เหตุการณ์ขนาดนั้นแล้วเลือกปฏิบัติแบบนี้ มันแสดงให้เห็นถึงเจตนาที่เลวร้าย

ซึ่งตอนนี้แฟนบอลไทยทุกคนก็ได้เห็นเหตุการณ์นี้กันหมดแล้ว

ผมรู้ดีว่าการที่ผมพูดแบบนี้ไม่สามารถเปลี่ยนผลการแข่งขันได้ แต่ผมขอให้เคสผมเป็นเคสสุดท้ายและขออย่าได้เกิดเหตุการณ์แบบนี้กับทีมไหนอีกเลย

ปลาเน่าตัวเดียวสามารถทําให้ทั้งเข่งเน่าได้ คํานี้คงไม่แรงเกินไป (กับวงการผู้ตัดสิน)

และถ้าผมยังอยู่ในสมาคมชุดนี้ ผมขอประกาศศึกกับผู้ตัดสินที่มีพฤติกรรมแบบนี้ ถ้าผู้ตัดสินคนนี้ยังได้ขึ้นมาเป่าไทยลีกอีก ถือว่าผมแพ้และผมจะเป็นคนลาออกเอง

ผมหวังเป็นอย่างยิ่งว่าเคสนี้จะช่วยสร้างผู้ตัดสินท่านอื่นที่รักในอาชีพผู้ตัดสินจริงๆ และจะทําให้คนทําทีมและแฟนบอลสามารถชมเกมฟุตบอลที่เรารักอย่างสบายใจปราศจากมารผจญสืบต่อไป

ขออย่าให้เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นกับใครอีกเลย