เมื่อวันที่ 6 เม.ย.นายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ สส.ราชบุรี พรรครวมไทยสร้างชาติ ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการ(กมธ.)การอุตสาหกรรม สภาผู้แทนราษฎร ให้สัมภาษณ์ถึงการตรวจพบสารแคดเมียมในพื้นที่ จ.สมุทรสาคร ว่า หน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องเข้ามาสอบสวนให้เกิดความกระจ่างใน 2 ประเด็นคือ 1.จะจัดการกับสารแคดเมียมที่เหลืออยู่อย่างไร เพราะมีการแจ้งว่าขออนุญาตขนมา 15,000 ตัน แต่วันที่เจ้าหน้าที่กรมโรงงานอุตสาหกรรมและอุตสาหกรรมจังหวัดสมุทรสาครเข้ามาชี้แจงต่อกมธ.แจ้งว่า พบมีกากแร่แคดเมียมประมาณหมื่นกว่าตัน ส่วนเมื่อวานกระทรวงอุตสาหกรรมบอกพบกากแร่ดังกล่าวแค่2,000กว่าตันทั้งในตัวอาคารและนอกอาคาร ดังนั้น เบื้องต้นต้องสรุปให้ได้ก่อนว่า ระยะเวลานี้ผ่านมา 5-6 เดือนขนมากี่ตันแน่ และยังเหลืออยู่กี่ตัน ต้องบอกตัวเลขที่แท้จริงกับประชาชนให้ได้ก่อนเพื่อให้หายสงสัย

นายอัครเดช กล่าวว่า ต้องสอบสวนให้เกิดความชัดเจนเวลานี้สารแคดเมียมกระจายไปที่ไหนบ้าง และมีบางส่วนตามกลับมาแล้วหลังมีการเข้าไปตรวจสอบพบว่ามีการย้ายไปโรงงานอื่น แล้วตามกลับมา ตรงนี้เป็นปัญหาแน่นอน เพราะไม่อย่างนั้นจะไม่ทราบว่ากระจายไปที่ไหนบ้างจะได้จัดการกับกากแร่เหล่านั้นได้ถูกต้อง ที่สำคัญต้องมีการสืบสวนสอบสวนว่ามีการนำไปหลอมหรือไม่ตรงนี้ถือเป็นเรื่องอันตรายมากเพราะ กระบวนการหลอมโลหะจะทำให้เกิดไอของสารแคดเมียมซึ่งก่อให้เกิดอันตรายต่อพี่น้องประชาชนได้

นายอัครเดช กล่าวอีกว่า ประเด็นที่ 2 เรื่องการขนย้ายต้องไม่โลกสวยการออกคำสั่งทางปกครอง ให้ขนย้ายแล้วเสร็จภายใน7วันในทางปฏิบัติทำได้หรือไม่ สารแคดเมียมเป็นสารอันตราย การขนย้ายต้องมีการวางแผนเตรียมการอย่างดี ทราบล่าสุดพบถุงบรรจุกากแคดเมี่ยมบางถุงที่กองเก็บนอกอาคารมีการชำรุดและเกิดการรั่วออกมาของกากแคดเมี่ยมบางส่วน หน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่าโลกสวย ต้องไปดูว่าในทางปฏิบัติจะควบคุมในการขนย้ายอย่างไรให้เกิดความปลอดภัยกับประชาชน

ประธานกมธ.อุตสาหกรรม กล่าวย้ำว่า ต้องเร่งหาคนทำผิดมาลงโทษให้ได้ถือว่าสำคัญมาก เพราะในการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม(อีไอเอ)ระบุชัดกากเเคดเมียมเหล่านี้ไม่สามารถขนย้ายได้ แต่กลับมีการขนย้ายทั้งที่กฎหมายไม่อนุญาตเรื่องนี้กมธ.จะติดตามอย่างใกล้ชิด ติดตามการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่เพื่อให้เกิดความรวดเร็ว ปลอดภัยสร้างความเข้าใจกับประชาชน อย่างไรก็ตาม ในวันที่ 17 เม.ย.กมธ.ได้เชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาชี้แจงอีกครั้ง

ด้านนางรัดเกล้า อินทวงศ์ สุวรรณคีรี รองพรรครทสช.และรองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า​ ล่าสุดน.ส.พิมพ์ภัทรา วิชัยกุล รมว.อุตสาหกรรม ได้สั่งระงับการกระทำที่ฝ่าฝืนกฎหมาย ห้ามนำกากแคดเมียมเข้าสู่กระบวนการผลิต พร้อมทั้งอายัดกากแคดเมียม และส่วนของอื่นๆ ไว้ เพื่อตรวจสอบและดำเนินการจัดการกากเเร่อันตรายให้เป็นไปตามกฎหมาย​  อีกทั้งยังได้ออกคำสั่งย้ายอุตสาหกรรมจังหวัดตากมาช่วยราชการ ที่สำนักงานกระทรวงอุตสาหกรรมอีกด้วย.