เมื่อวันที่ 11 เม.ย. อยากดังเดี๋ยวจัดให้ รีเทริน์ part 6 ได้โพสต์เรื่องราวของหญิงสาวรายหนึ่ง ที่คาดว่าผู้เล่าน่าจะยังเป็นวัยรุ่น พร้อมกับส่งภาพแชตไลน์ที่ตัวเองคุยกับอดีตแฟน หลังจากที่ตัวเองเกิดแท้งลูก

โดยเธอเล่าว่า ขอฝากเรื่องด้วยได้มั้ยคะ หนูคบกับแฟนมาตั้งแต่สิ้นเดือน ต.ค. 66 คบกันตอนแรกก็แฮปปี้ค่ะ ช่วงโปรอะไรก็ดี แต่เค้าก็มีเรื่องแอบคุยกับคนอื่นบ้าง หนูก็ไม่ได้อะไรเพราะแค่คุย จน 29 ธ.ค. 66 ทะเลาะกันมีปากเสียงลงไม้ลงมือกัน ก็กะจะแยกย้ายแต่ทางผู้ชายเค้ามาขอโอกาสเลยลองกลับมา ก็ทำข้อตกลงกันว่าถ้ากลับมาดีกันแล้วเค้าต้องหางานทำ เพราะผู้ชายไม่ได้ทำงาน กินข้าวหรือทุกอย่างเป็นเงินของหนู

จน 23 ม.ค. ประจำเดือนไม่มาเลยซื้อที่ตรวจ สรุปคือท้อง บอกผู้ชายก็คือเงียบเลยคิดว่าเค้าน่าจะช็อกอยู่เลยรอวันถัดมาบอกครั้งที่ 2 ผู้ชายโวยวายว่าเราสร้างแต่ปัญหามีแต่เรื่องให้ปวดหัว แต่ช่วงท้องเดือนแรกก็คือปวดท้องบ่อยมากค่ะ เลยบอกกับผู้ชายว่าเราปวดท้องนะ เค้าก็ถามทำไมไม่ไปซื้อยากิน เราเลยถามยาอะไร เค้าตอบยาขับเลือด ก็เลยรู้ว่าเค้าไม่ได้อยากเก็บเด็กไว้ ก็เลยคุยตกลงกันเรื่องเงินทอง เพราะเค้าติดเงินหนูอยู่หลายพันบาท ตกลงกันว่าถ้าใช้หนี้ตรงนี้หมดก็ต่างคนต่างไป เพราะเค้าเป็นคนไม่ทำงานทำการ แล้วหนูก็แพ้ท้องหนักมากถึงขั้นทำงานไม่ได้ กินข้าวไม่ได้ ได้แต่นอนกับอ้วก แต่ทางผู้ชายก็ไม่เคยถามไถ่คิดว่าหนูเป็นคนขี้เกียจไม่ไปทำงาน ทั้งที่ตัวเองก็นอนอยู่บ้าน ตอนนั้นหนูเลยสองจิตสองใจว่าจะเอาเด็กไว้ดีหรือเอาออกดี เพราะคบกัน ที่บ้านหนูไม่ได้รู้เรื่อง

จนเวลาเลยมาถึงเดือน มี.ค. หนูจึงตัดสินใจจะไปอัลตราซาวด์เพราะอยากรู้อายุครรภ์ที่แน่ชัดของเด็ก เลยชวนพ่อของเด็กไป แต่เค้าก็ไม่ไป วันนั้นหนูเลยต้องไปกับเพื่อนแทน ทางผู้ชายเค้าก็ไม่ได้ยินดียินร้ายที่เห็นรูปอัลตราซาวด์ของเด็ก ก็อยู่กันมาแบบดีกันบ้างทะเลาะกันบ้าง แล้วตัวหนูเองก็เกิดความเครียดทั้งเรื่องท้อง พ่อของลูก ท้องแล้วบอกใครไม่ได้ เพราะอาย จน 26 มี.ค. ผู้ชายได้โอนเงินที่ติดค้างและไล่หนูกลับบ้าน หนูก็กลับ แต่ก็ไม่ได้คิดว่าจะเลิกเพราะลูกก็ยังคาท้องอยู่

จนเช้าของวันที่ 3 เม.ย. หนูมีอาการไข้แล้วปวดท้องหนักมาก จึงได้มาบ้านผู้ชายและขอให้เค้าดูแลซื้อยาให้กิน ด้วยความที่ไม่กล้าไป รพ. เพราะกลัวที่บ้านรู้ แต่สรุปไปถึงเค้าก็ไปที่อื่น หนูก็ได้แต่นอนปวดท้องอยู่บ้านเค้าเพราะไปไหนไม่ได้แล้ว ไม่มีแรงลุกเดิน ท้องเสีย 3 รอบ จนกระทั่งรอบสุดท้ายมีน้ำคร่ำแตกและเด็กก็ไหลออกมา หนูจึงได้โทรฯหาทักหาเพื่อให้เค้าเข้ามาดู แต่ไม่มีการตอบรับใดๆ เงียบหายไปไม่เข้าบ้านตั้งแต่วันที่ 3 เม.ย. แล้วหนูก็ลุกไปไหนไม่ไหวด้วยความเสียเลือดเยอะได้แต่ทนปวดท้องจน 2 ทุ่มของวันที่ 4 เม.ย. ได้โทรฯให้เพื่อนสนิทมารับกลับบ้านตัวเองเพราะขี่รถไม่ไหวและได้ซื้อยาแก้ปวดกินบรรเทาไป

คืนวันที่ 4 เวลาประมาณเกือบ 5 ทุ่ม ผู้ชายเพิ่งตอบไลน์มาว่าทำความสะอาดที่บ้านเค้าดีมั้ย ในห้องเป็นยังไง (ลูกหนูหลุดที่บ้านเค้า) โดยที่ไม่ถามอาการเราสักคำว่าเป็นอย่างไรบ้าง และวันที่ 5 เราก็ได้เข้าไปที่บ้านเค้าเพราะจะเอาลูกไปทำพิธีที่วัดด้วยกัน แต่เค้าบอกว่าไม่ต้องมาบ้านเค้าแล้ว เดี๋ยวเค้าจัดการเอง แล้วขี่รถออกไปเที่ยวข้างนอก และมีการคุยกันในไลน์โดยฝ่ายชายถามว่าทำไมหนูถึงไม่เลิกวุ่นวายสักที เพราะเลิกกันไปแล้ว หนูก็งงว่าเลิกกันตอนไหน เค้าตอบว่าสำหรับเค้าคือเลิกไปตั้งแต่ตอนที่โอนเงินใช้หนี้แล้ว ก็เลยมาคุยตกลงกันว่าเลิกกันจริงๆ คือ 5 เม.ย

วันที่ 6 เม.ย. หนูจับได้ว่าเค้าแอบไปคบกับคนอื่น เปิดตัวกันในเฟซ จึงได้ทักไปด่าฝ่ายหญิงเพราะเคยจับได้แล้ว 1 รอบ รอบนี้คือรอบที่ 2 และมาคบกันระหว่างที่หนูกับแฟนยังไม่ได้เลิกกัน ทางฝ่ายชายจึงได้ทักมาด่าต่อว่าหนูว่าทำให้เค้าเลิกกับคนใหม่ โดยที่ศพลูกรกลูกก็ยังอยู่ที่บ้านเค้า (ที่หนูไม่ได้เอาไปทำเองเพราะไม่มีเรี่ยวแรงเลยแม้แต่จะเดิน)

จนคืนวันที่ 6 หนูปวดท้องหน้ามืดท้องกระแทกขอบอ่าง ปวดท้องหนักแต่ก็ทนมาจนถึงวันที่ 7 เม.ย. จนถึงเวลา 2 ทุ่มทนปวดไม่ไหวจึงได้ให้อาพาไปโรงพยาบาลและเล่าเรื่องราวให้อาฟัง สรุปรกเด็กยังออกไม่หมดและเน่าอยู่ในมดลูกจนทำให้หนูติดเชื้อในกระแสเลือด และได้ส่งรูปให้ฝ่ายชายดูว่าอยู่ รพ. ฝ่ายชายไม่ได้สนใจและบอกให้เลิกวุ่นวาย หนูนอนโรงพยาบาลมา 4 วัน เค้าไม่เคยคิดจะมาเยี่ยมหรือถามไถ่อาการเลยสักคำเดียว

ตอนนี้หนูยังไม่รู้เลยค่ะว่าลูกหนูยังอยู่บ้านเค้าหรือเอาไปไหนแล้ว เพราะตอนนี้หนูยังอยู่โรงพยาบาลอยู่เลย