สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานจากนครเจนีวา ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ เมื่อวันที่ 19 เม.ย. ว่า องค์การอนามัยโลก (ดับเบิลยูเอชโอ) เตือนการแพร่ระบาดของไข้หวัดนก จากเชื้อไวรัสสายพันธุ์ “เอช5เอ็น1” ที่มีอัตราการเสียชีวิตสูงเป็นพิเศษ ระบาดไปยังสิ่งมีชีวิตสายพันธุ์อื่น ๆ และรวมไปถึงมนุษย์

นายเจเรมี ฟาร์ราร์ หัวหน้านักวิทยาศาสตร์ของดับเบิลยูเอชโอ กล่าวว่า การระบาดนี้ “มีความน่ากังวลอย่างมาก” หลังการระบาดเริ่มต้นเมื่อปี 2563 ส่งผลให้สัตว์ปีกหลายสิบล้านตัวตาย รวมไปถึงนกที่อยู่ในป่าและสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม ทั้งบนบกและในทะเล

ผู้เชี่ยวชาญประหลาดใจ หลังพบวัวและแพะตายจากไข้หวัดนกเอช5เอ็น1 เมื่อเดือนที่แล้ว เนื่องจากไม่มีใครคาดคิดว่า สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมพวกนี้ จะอ่อนแอต่อโรคดังกล่าว

ฟาร์ราร์ กล่าวว่า เชื้อสายพันธุ์เอ หรือเอช5เอ็น1 กลายเป็น “โรคระบาดจากสัตว์สู่คนทั่วโลก” แล้ว ซึ่งสิ่งที่น่ากังวล คือการติดเชื้อเพิ่มขึ้นในเป็ดและไก่ หรือสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม ขณะนี้ ไวรัสวิวัฒนาการและแพร่เชื้อสู่มนุษย์ อาจสามารถไปถึงระดับที่สามารถติดต่อจากคนสู่คนได้

อย่างไรก็ดี ยังไม่มีหลักฐานการแพร่ระบาดระหว่างคนด้วยกัน แต่มนุษย์ที่สัมผัสกับสัตว์ที่ติดเชื้อ มีอัตราการเสียชีวิตสูงเป็นพิเศษ

ตั้งแต่ต้นปี 2566 ถึงวันที่ 1 เม.ย. 2567 มีผู้เสียชีวิตจากไข้หวัดนกแล้ว 463 ราย จากผู้ป่วย 889 คน ใน 23 ประเทศ คิดเป็นอัตราการเสียชีวิต ร้อยละ 52

อีกด้านหนึ่ง มีความกังวลเพิ่มขึ้น หลังทางการสหรัฐพบชายในรัฐเทกซัส ติดเชื้อโรคไข้หวัดนกหลังสัมผัสกับโคนม ถือเป็นผู้ติดเชื้อดังกล่าวคนที่สองของประเทศ

นอกจากนั้น ฝูงสัตว์ยังป่วยมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด หลังมีการตรวจพบ ว่ามีการสัมผัสกับนกป่าในรัฐเทกซัส แคนซัส และอีกหลายรัฐ

อย่างไรก็ดี นี่ถือเป็นครั้งแรกที่มนุษย์ติดเชื้อไวรัสเอช5เอ็น1 จากการสัมผัสกับสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม “ไวรัสเข้าถึงสัตว์สายพันธุ์นี้ได้แล้ว มันกำลังเข้าใกล้มนุษย์มากขึ้นเรื่อย ๆ และมองหาพาหะใหม่ ๆ” ฟาร์ราร์ กล่าว

เขากล่าวว่า มันเป็นเรื่องน่ากังวล และเรียกร้องให้เพิ่มการเฝ้าระวัง เพราะหากมีจำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ไวรัสอาจวิวัฒนาการไปมากกว่านี้ “มันเป็นเรื่องน่าเศร้าที่ต้องพูดว่า หากผมติดเชื้อแล้วตาย มันก็จบ แต่ถ้าผมติดเชื้อแล้วแพร่ต่อให้คนอื่นในชุมชน ผมจะเป็นคนที่เริ่มวงจร”

ขณะนี้ อยู่ในระหว่างการพยายามพัฒนาวัคซีน และการรักษาเชื้อไวรัสเอช5เอ็น1 ฟาร์ราร์ กล่าวถึงความจำเป็นในการเตรียมความพร้อมของหน่วยงานด้านสุขภาพ ทั้งระดับภูมิภาคและนานาชาติ เพื่อรับมือหากไวรัสนี้ระบาดจากคนสู่คนในอนาคต นอกจากนั้น เขาได้เรียกร้องให้มีการเข้าถึงวัคซีน การรักษา และการวินิจฉัยอย่างเท่าเทียม.

เครดิตภาพ : GETTY IMAGES