เมื่อวันที่ 24 เม.ย. ที่รัฐสภา นายปริญญา เทวานฤมิตรกุล ผู้อำนวยการศูนย์นิติศาสตร์ คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ พร้อมนักศึกษามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ยื่นหนังสือถึงประธานคณะกรรมาธิการกฎหมายการยุติธรรมและสิทธิมนุษยชน ผ่าน น.ส.ศศินันท์ ธรรมนิฐินันท์ สส.กทม. พรรคก้าวไกล ในฐานะรองประธาน กมธ.กฎหมาย การยุติธรรมและสิทธิมนุษยชน คนที่ 1 สภาผู้แทนราษฎร เพื่อเสนอร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) แก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา (ฉบับที่ ..) พ.ศ. ….

นายปริญญา กล่าวว่า รัฐธรรมนูญกำหนดให้สันนิษฐานไว้ก่อนว่า ผู้ต้องหาหรือจำเลยไม่มีความผิด แต่ในรอบปีที่ผ่านมา ปรากฏว่ามีผู้ที่ศาลยังไม่ได้ตัดสินโดนจำคุก 1-2 แสนคน ดังนั้น จึงต้องมีการแก้ไขกฎหมายประมวลกฎหมายฯ ดังกล่าว เพราะรัฐธรรมนูญได้วางกฎหมายไว้ตั้งแต่ปี 2492 เพื่อให้สิทธิประชาชนที่ถูกกล่าวหา ไม่ว่าในชั้นพนักงานสอบสวน หรือในชั้นศาลก็ตาม ตราบใดที่ศาลยังไม่พิพากษา เราทุกคนจะต้องได้รับการปฏิบัติแบบที่ไม่ใช่นักโทษ ถ้าไม่ให้ประกันตัวก็ต้องเป็นในรูปแบบการกักขังไม่ใช่การจำคุก

นายปริญญา กล่าวต่อว่า การขอแก้ไขครั้งนี้ เป็นการขอแก้ไขสองมาตรา ได้แก่ มาตรา 88 และมาตรา 106 เมื่อโดนตั้งข้อกล่าวหาเป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจและอัยการที่ขอศาลให้ขัง ไม่ใช่หน้าที่ของประชาชนที่จะต้องขอประกันตัว แต่ที่ผ่านมา การขังเป็นเรื่องอัตโนมัติ และประชาชนไปขอประกันตัว ซึ่งขัดกับหลักรัฐธรรมนูญ ที่ให้สันนิษฐานไว้ก่อนว่าผู้ต้องหาและจำเลยเป็นผู้บริสุทธิ์ไว้ก่อน

นอกจากนี้ นายปริญญา ยังกล่าวถึงผู้ที่ติดคุกเพราะไม่มีเงินจ่ายค่าปรับ ว่าเป็นความเหลื่อมล้ำ เป็นเรื่องคุกมีไว้ขังคนจนโดยแท้ เพราะคนมีเงินอาจมีช่องทางไม่ต้องจำคุก ซึ่งเรื่องนี้ ต้องมีการแก้ไขว่าผู้ที่ไม่มีเงินจ่ายค่าปรับสามารถทำงานบริการสังคม หรือบริการสาธารณประโยชน์ แทนการกักขังได้

ด้าน น.ส.ศศินันท์ กล่าวว่า ขณะนี้ทาง กมธ. กำลังจะตั้งคณะอนุกรรมาธิการขึ้นมา 2 คณะ คือคณะอนุกรรมาธิการพิจารณาร่างกฎหมายและคณะอนุกรรมาธิการเกี่ยวกับการปฏิรูปกระบวนการยุติธรรม และสิทธิมนุษยชน ซึ่งร่างกฎหมายที่อาจารย์ได้เสนอนั้น สามารถนำเข้ามาร่วมพิจารณาได้ทั้ง 2 คณะอนุกรรมาธิการ ทางคณะกรรมาธิการฯ จะนำเรื่องนี้เข้ามาพิจารณาโดยเร็ว เพื่อนำไปสู่การแก้ไขร่างกฎหมายในอนาคต.