สำนักข่าวเอเอฟพี รายงานจากกรุงบรัสเซลส์ ประเทศเบลเยียม เมื่อวันที่ 25 เม.ย. ว่า ฝ่ายบริหารอียูในกรุงบรัสเซลส์ แสดงความกังวลในวารสารการบริหารอย่างเป็นทางการของกลุ่ม ว่าจีนจะสนับสนุนซัพพลายเออร์ของตนเอง ในการจัดซื้ออุปกรณ์ทางการแพทย์ และมีข้อจำกัดการนำเข้า เช่นเดียวกับการกำหนดเงื่อนไขต่าง ๆ จนนำไปสู่การเสนอราคาที่ต่ำผิดปกติ

กระนั้น รัฐบาลปักกิ่ง ออกมาตอบโต้และตำหนิการสอบสวนของอียู โดยนายหวัง เหวินปิน โฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีน กล่าวว่า การดำเนินการเช่นนี้จะสร้างความเสียหายต่อ “ภาพลักษณ์ของอียู”

“โลกภายนอกทั้งหมดเห็นว่า อียูค่อย ๆ เข้าสู่การกีดกันทางการค้า” หวัง กล่าวเพิ่มเติม พร้อมกับเรียกร้องให้ฝ่ายบริหารอียูในกรุงบรัสเซลส์ หยุดใช้ข้ออ้างใด ๆ ก็ตาม เพื่อปราบปรามและจำกัดธุรกิจของจีนอย่างไม่มีมูลเหตุ

ตามข้อมูลจากรายงานปี 2566 ของคลังสมอง “เมริกส์” ตลาดอุปกรณ์การแพทย์ของจีน มีขนาดใหญ่เป็นอันดับสองของโลก รองจากสหรัฐ และมีมูลค่าประมาณ 135,000 ล้านยูโร (ราว 5.37 ล้านล้านบาท) ในปี 2565

อนึ่ง การสอบสวนของอียูในครั้งนี้ ถือเป็นครั้งแรกภายใต้ตราสารการจัดซื้อจัดจ้างระหว่างประเทศ (ไอพีไอ) ของกลุ่ม ซึ่งพยายามส่งเสริมการแลกเปลี่ยนในการเข้าถึงตลาดการจัดซื้อจัดจ้างสาธารณะระหว่างประเทศ

“มาตรการและแนวทางปฏิบัติที่เข้มงวด ทำให้ผู้ประกอบการทางเศรษฐกิจ สินค้า และบริการของอียู เสียเปรียบอย่างมีนัยสำคัญและเป็นระบบ ขณะเดียวกัน จีนยังสนับสนุนการจัดซื้อผลิตภัณฑ์ภายในประเทศอย่างเป็นระบบ เพื่อสร้างความเสียหายต่อสินค้านำเข้า” วารสารอย่างเป็นทางการของอียู ระบุ

ทั้งนี้ หากการสืบสวนพบว่า จีนมีพฤติกรรมที่ไม่เป็นธรรม อียูสามารถจำกัดไม่ให้บริษัทสัญชาติจีน เข้าถึงตลาดการจัดซื้อจัดจ้างสาธารณะของกลุ่มได้.

เครดิตภาพ : GETTY IMAGES