สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากเมืองโฮจิมินห์ ประเทศเวียดนาม เมื่อวันที่ 25 เม.ย. ว่า ศาลประชาชนในเมืองโฮจิมินห์ มีคำพิพากษา เมื่อวันพฤหัสบดี ว่านายเจิ่น กวี แถ่ง วัย 71 ปี ประธานบริษัท “ทีเอชพี” หรือ “ตัน เฮียบ ฟัต” ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้นำด้านอุตสาหกรรมเครื่องดื่มชูกำลังของเวียดนาม และบุตรสาวทั้งสองคน มีความผิดจริง ฐานหลอกลวง และฉ้อโกง นักลงทุนและประชาชนทั่วไป ให้เข้าร่วมการกู้เงิน ด้วยการใช้สินทรัพย์เป็นหลักประกัน ระหว่างปี 2562-2563


อย่างไรก็ตาม การลงทุนดังกล่าวกลับกลายเป็นการยักยอกเงิน ที่สร้างความเสียหายให้แก่ประชาชนซึ่งเข้าร่วม เป็นมูลค่ามากกว่า 40 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 1,482.58 ล้านบาท) ศาลจึงตัดสินให้นายแถ่งต้องรับโทษจำคุก 8 ปี


ขณะที่บุตรสาวคนโต วัย 43 ปี รับโทษจำคุกเป็นเวลา 4 ปี ส่วนบุตรสาวคนเล็กวัย 40 ปี ศาลพิพากษาให้รับโทษจำคุก 3 ปี แต่ให้รอลงอาญาไว้ก่อน


การพิพากษาดังกล่าวเกิดขึ้น หลังศาลประชาชนเมืองโฮจิมินห์แห่งนี้ มีคำพิพากษาเมื่อต้นเดือนนี้ ให้นางเจือง มี ลัน ประธานบริษัท วัน ติ๋ญ ฟ้าด รับโทษประหารชีวิต จากความผิดฐานฉ้อโกงและยักยอกเงิน จากธนาคารไซ่ง่อน คอมเมอร์เชียล แบงก์ (เอซีบี) ด้วยการล่อลวงให้ลงทุนในพันธมิตร ตลอดระยะเวลานานกว่า 1 ทศวรรษที่ผ่านมา


ทั้งนี้ มูลค่าความเสียหายที่เกิดขึ้นตามคำฟ้อง อยู่ที่ราว 12,500 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 463,425 ล้านบาท) และมีผู้เสียหายมากกว่า 40,000 คน อย่างไรก็ตาม อัยการกล่าวว่า หากคำนวณตามอัตราเงินเฟ้อในปัจจุบัน มูลค่าความเสียหายจะสูงถึง 27,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 1 ล้านล้านบาท) เทียบเท่า 6% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (จีดีพี) ของเวียดนาม เมื่อปี 2566


ศาลใช้เวลาพิจารณาคดีดังกล่าวนานราว 5 สัปดาห์เท่านั้น คดีนี้ได้รับความสนใจอย่างมากในสังคมเวียดนาม เนื่องจากจำเลยเป็นหนึ่งในนักธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ชื่อดังระดับประเทศ และนับเป็นกรณีแทบไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ที่ศาลพิพากษาบทลงโทษประหารชีวิต ให้กับผู้กระทำผิดในคดีอาชญากรรมทางการเงิน.

เครดิตภาพ : AFP