สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงโฮนีอารา หมู่เกาะโซโลมอน เมื่อวันที่ 2 พ.ค. ว่า สภาแห่งชาติของหมู่เกาะโซโลมอน มีมติเสียงข้างมาก 31 จาก 50 เสียง เลือกนายเยเรมีย์ มาเลเน อดีต รมว.การต่างประเทศ ให้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีคนใหม่ ส่วนคู่แข่งเพียงคนเดียว คือนายแมทธิว วาเล ผู้นำฝ่ายค้าน ได้รับคะแนนเสียงสนับสนุน 18 เสียง


แม้หมู่เกาะโซโลมอนเป็นประเทศขนาดเล็กมาก และมีประชากรราว 720,000 คน แต่การเลือกตั้งทั่วไป เมื่อวันที่ 17 เม.ย. ที่ผ่านมา ได้รับการจับตาอย่างใกล้ชิดจากสหรัฐและจีน เนื่องจากประเทศหมู่เกาะแห่งนี้ กำลังเป็นสมรภูมิทางภูมิรัฐศาสตร์ของสองประเทศมหาอำนาจ ที่กำลังขับเคี่ยวช่วงชิงอิทธิพลกัน ในภูมิภาคแปซิฟิกใต้


ทั้งนี้ การที่นายกรัฐมนตรีมานัสเซห์ โซกาวาเร ผู้นำโซโลมอนในเวลานั้น ปฏิเสธรับการเสนอชื่อให้ดำรงตำแหน่งผู้นำเป็นสมัยที่สองติดต่อกัน ท่ามกลางความนิยมในประเทศที่ถดถอย จึงทำให้มีการคาดการณ์ว่า อาจนำไปสู่การปรับเปลี่ยนนโยบายการต่างประเทศของโซโลมอน ที่ยุติความสัมพันธ์กับไต้หวัน เมื่อปี 2562


อย่างไรก็ดี มาเนเลคือผู้ที่ดำรงตำแหน่ง รมว.การต่างประเทศโซโลมอน ในช่วงที่ตัดขาดความร่วมมือกับไต้หวัน แล้วหันมาสถาปนาความสัมพันธ์กับจีน และมีการลงนามในข้อตกลงความร่วมมือด้านความมั่นคงกับรัฐบาลปักกิ่ง เมื่อปี 2565


ขณะที่ผู้นำคนใหม่ของโซโลมอนให้คำมั่น “เป็นรัฐบาลเอกภาพ” มุ่งเน้นการพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนในประเทศ และการฟื้นฟูเศรษฐกิจ หลังผ่านพ้นการแพร่ระบาดใหญ่ของโรคโควิด-19.

เครดิตภาพ : AFP