เมื่อวันที่ 9 พ.ค. ที่กระทรวงสาธารณสุข นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.สาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ต่อสื่อมวลชนเกี่ยวกับภารกิจของกระทรวงสาธารณสุข ในการดำเนินการตามข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรี ให้แก้ไขกฎกระทรวงกำหนดปริมาณการครอบครองยาบ้าถือเป็นผู้เสพ ต้องรับการบำบัดจากปัจจุบันกำหนดไว้ที่ 5 เม็ด ให้เหลือ 1 เม็ด รวมถึงข้อสั่งการให้ออกกระกาศกระทรวงสาธารณสุขคืนกัญชาเป็นยาเสพติดประเภท 5 ว่า เกี่ยวกับนโยบายด้านยาเสพติดนั้น ตนได้สั่งการให้ปลัดกระทรวงสาธารณสุขประชุมดำเนินการจัดทำไทม์ไลน์ที่จะดำเนินการให้แล้วเสร็จในสัปดาห์หน้าว่าจะ มีขั้นตอนอย่างไร ในส่วนของยาบ้านั้นก็คงไม่มีใครเห็นเป็นอื่นใด

สัมหรับเรื่องของกัญชานั้น รัฐบาลได้แถลงดำเนินการแนวทางการใช้ประโยชน์จากกัญชาทางการแพทย์และสุขภาพ เพื่อสร้างมูลค่าในเชิงเศรษฐกิจ ในส่วนของการดูแลสุขภาพประชาชน ต้องมองในเชิงยาเสพติด ส่วนการสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจนั้น อดีตผู้ประกอบการอาจจะคิดว่า มีการปิดกั้นการขออนุญาตต่างๆ แต่เมื่อตนรับนโยบายมาจากรัฐบาลแล้วก็จะพยายามทำให้สอดคล้อง ซึ่งเป็นเรื่องละเอียดอ่อนมาก โดยเฉพาะการทำประชาพิจารณ์ หรือรับฟังความคิดเห็น ต้องดูว่าจะกระทบ ความเสียหายของผู้ที่ประกอบกิจการที่ดำเนินการผลิตผลิตภัณฑ์ต่างๆ ออกมาแล้ว ซึ่งเรื่องนี้ต้องใช้เวลาดำเนินการมากกว่าการดำเนินการเกี่ยวกับยาบ้า ทั้งนี้ขอให้ประชาชนทุกฝ่ายมองเห็นประโยชน์ของประเทศชาติ แล้วค่อยๆ ดำเนินการให้เสร็จสิ้น ทั้งนี้การดำเนินการเกี่ยวกับการเอากัญชากลับไปเป็นยาเสพติดนั้นไม่ใช่ว่า ปุบปับทำได้เลย ต้องดูให้เกิดความเสียหายน้อยที่สุด แต่เมื่อรัฐบาลมีแนวนโยบายอย่างไรเราก็ต้องไปอย่างนั้น และเชื่อว่าไปได้ และต้องทำความเข้าใจกับทุกฝ่าย แต่ก็ยังไม่ได้มีการพูดคุยว่าจะเยียวยาผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบอย่างไรหรือไม่ ซึ่งตนต้องมีการรับฟังก่อน แต่จะไม่ให้ใครเอารัดเอาเปรียบผู้ประกอบการ ไม่ให้กระทบกับผู้ประกอบการธุรกิจ

เมื่อถามว่า นายกฯ สั่งการให้คืนสถานะยาเสพติด เฉพาะกัญชา หรือรวมกัญชงด้วยหรือไม่ นายสมศักดิ์ กล่าวว่า ตนยังมีความรู้เกี่ยวกับเรื่องกัญชงน้อย พยายามพูดคุย ดูเอกสารต่างๆ ทราบว่า กัญชงไม่ได้นิยมนำมาสูบหรือเสพ เบื้องต้นกัญชงที่ปลูกบนเขาจะให้สาร THC ต่ำกว่า 0.2% แต่หากปลูกบนที่ราบก็จะให้สาร THC สูงกว่า 0.2% ซึ่งตนพยายามคุยกับผู้รู้ เห็นว่าสามารถแยกกันได้ แต่เราจะเชื่อเลยไม่ได้ ต้องทำอย่างรอบคอบ

เมื่อถามว่า การคืนกัญชาเป็นยาเสพติด จะคืนทุกส่วนของกัญชาหรือคืนส่วนใดกลับเป็นยาเสพติดก่อนหรือไม่ นายสมศักดิ์ กล่าวว่า ถ้าใจอยาก แต่ก็อาจจะไม่ได้อย่างใจอยากก็ได้ เพราะมีเรื่องของวิชาการ และหลักเกณฑ์ขององค์กรสากลต่างๆ มาค้ำอยู่ว่า ทำได้แค่ไหน อย่างไรปัญหาถึงจะน้อยที่สุด แค่วันนี้รัฐบาลจะดำเนินการ “นโยบายการใช้ประโยชน์จากกัญชาทางการแพทย์และสุขภาพ เพื่อสร้างมูลค่าในเชิงเศรษฐกิจ” ประโยคแค่นี้ยังมีการตีความไปต่างๆ นานา จึงต้องให้ผู้รู้ ผู้เกี่ยวข้องมาช่วยกันทำให่ปัญหาหมดไป ถึงจะเดินต่อได้ หากเดินจากความขัดแย้งคงเดินต่อไปไม่ได้ ดังนั้นเรื่องนี้ต้องใช้เวลาเพิ่มอีกนิดหน่อย แต่เราต้องยืนหยัดตามสิ่งที่รัฐบาล หรือนายกฯ เป็นผู้แถลง

เมื่อถามว่า ขณะนี้หน่วยงานที่วิจิยเกี่ยวกับกัญชายังสามารถเดินหน้าต่อไปได้หรือไม่ นายสมศักดิ์ กล่าวว่า ในขณะนี้ ยังไม่ได้มีการปรับแก้อะไรกะทันหัน ดังนั้นช่วงเวลานี้ทุกอย่างยังไปได้ แต่เราก็จะทำไป และแถลงความคืบหน้าให้ทราบเป็นระยะๆ ส่วนคนที่ได้ใบอนุญาตปลูกกัญชาไปแล้ว ที่ปลูกไปแล้วก็ปลูกไป ที่ยังไม่ได้ปลูกก็ขอว่าอย่าเพิ่งปลูก

เมื่อถามว่า นิยามของกัญชาทางการแพทย์และสุขภาพ จะรวมถึงผลิตภัณฑ์อาหาร เครื่องสำอางด้วยหรือไม่ นายสมศักดิ์ กล่าวว่า ยังตอบไม่ได้ เพราะความเข้าใจของผู้คนอาจจะไม่เหมือนกัน ตอนนี้เราทำให้ดีที่สุด ขอให้มาร่วมกัน เป็นประโยชน์กับส่วนรวม ซึ่งก็พร้อมเปิดให้ทุกฝ่ายเข้าพบหรือจะให้ตนไปพบก็ได้ แสดงความคิดเห็นและให้ข้อเสนอแนะเสมอ ตนไม่ใช่น้ำเต็มแก้ว   

เมื่อถามถึง ร่าง พ.ร.บ.กัญชากัญชง ที่มีการทำประชาพิจารณ์ผ่านไปแล้ว จะชะลอไปก่อนหรือไม่ นายสมศักดิ์ กล่าวว่า อาจจะต้องชะลอไว้ก่อน     

ความแตกต่างของสถานะกัญชาปัจจุบันกับการกลับไปเป็นยาเสพติด นายสมศักดิ์ กล่าวว่า ทุกวันนี้ที่จะต้องทำให้เป็นเสรี เพราะที่ผ่านมาการขออนุญาตทำได้ยาก แต่สิ่งต่างๆ สามารถแก้ได้ และต้องควบคุมให้อยู่ ไม่ใช่ให้คนไปติดหรือเสพ ถ้ายังควบคุมไม่ได้ดีก็ยังทำไม่ได้ จะต้องปรับแก้ ให้เป็นตามแนวทางนโยบายของรัฐบาลเรื่องใช้ประโยชน์ทางการแพทย์และสุขภาพเพื่อสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจ ซึ่งในมุมของนักกฎหมายการจะดำเนินการตามแนวทางนี้ ไม่เกี่ยวกับว่าเป็นยาเสพติดหรือไม่เป็นยาเสพติด โดยรัฐบาลกำลังตีเส้นสิ่งที่เป็นยาเสพติดและไม่ใช่ยาเสพติด 

เมื่อถามว่า ได้มีการพูดคุยกับนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และรมว.มหาดไทย หรือไม่ นายสมศักดิ์ กล่าวว่า ก็พูดคุย แต่อาจจะไม่ได้เห็นด้วยกันไปทั้งหมด แต่มีแนวทางที่คุยกันและไม่ทะเลาะกัน.