วันที่ 9 พ.ค. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) ร่วมกับ นายวิศิษฏ์ วิศิษฏ์สรอรรถ ปลัดกระทรวงดีอี พล.ต.ท.อิทธิพล อัจฉริยะประดิษฐ์ ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผู้ช่วย ผบ.ตร.) นายธสรณ์อัฑฒ์ ธนิทธิพันธ์ เลขาธิการคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) นายไตรรัตน์ วิริยะศิริกุล รักษาการเลขาธิการคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) และ พล.ต.ต.เอกรักษ์ ลิ้มสังกาศ รองเลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) แถลงข่าวว่า ความคืบหน้าการปราบปรามอาชญากรรมออนไลน์เป็นระยะที่ 2 ต่อเนื่องจากการดำเนินการในระยะแรก 30 วัน (1-30 เม.ย. 2567)

กระทรวงดีอีและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ร่วมมือกันออกมาตรการเพิ่ม 7 มาตรการ เพื่อแก้ปัญหาอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ประกอบด้วย


1.มาตรการแก้ปัญหาหลอกลวงซื้อขายสินค้าออนไลน์ โดยเฉพาะบริการเก็บเงินปลายทางหรือซีโอดี โดยสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) จะเร่งจัดทำประกาศควบคุมฯ เพื่อป้องกันและลดจำนวนคดีผู้ถูกหลอกซื้อขายสินค้าออนไลน์

2.มาตรการเร่งรัดคืนเงินและเยียวยาผู้เสียหาย

3.มาตรการเพิ่มความรับผิดชอบผู้ให้บริการสื่อสังคมออนไลน์ ผู้ให้บริการโทรคมนาคม และผู้ให้บริการทางการเงิน

4.มาตรการรณรงค์ประชาสัมพันธ์และสร้างภูมิคุ้มกันอาชญากรรมออนไลน์ แบบเจาะจงเรื่องการหลอกลวงลงทุน การหลอกหารายได้ และแก๊งคอลเซ็นเตอร์

5.มาตรการเร่งรัดปรับปรุงแก้ไขกฎหมาย ในประเด็นสำคัญทั้งการเร่งคืนเงินให้กับผู้เสียหาย การเพิ่มโทษการซื้อขายข้อมูลส่วนบุคคล และการป้องกันการโอนเงินแบบผิดกฎหมายของคนร้ายโดยการใช้สินทรัพย์ดิจิทัล โดยเฉพาะที่เป็นแพลตฟอร์มซื้อขายแลกเปลี่ยนสินทรัพย์ดิจิทัลในต่างประเทศที่ผิดกฎหมาย

ส่วนมาตรการที่ 6 และมาตรการที่ 7 เป็นมาตรการต่อเนื่องจากเฟสแรก คือ มาตรการปราบปรามจับกุมอาชญากรรมออนไลน์ทั้งในและต่างประเทศ และมาตรการป้องกันปราบปรามบัญชีม้า ซิมม้า และจับกุมผู้เกี่ยวข้อง

โดยการบูรณาการข้อมูลบัญชีต้องสงสัยร่วมกันระหว่าง ธนาคารแห่งประเทศไทย สมาคมธนาคารไทย พร้อมกำหนดหลักเกณฑ์และมาตรการการเปิดบัญชีใหม่ โดยกระบวนการพิสูจน์ทราบข้อเท็จจริง ตั้งเป้าหมายการปิดบัญชีม้าไม่ต่ำกว่า 100,000 บัญชีต่อเดือน

พล.ต.ต.เอกรักษ์ ลิ้มสังกาศ รองเลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) กล่าวว่า เพื่อให้ประชาชนผู้เสียหายได้รับเงินคืนได้เร็วขึ้น กระทรวงดีอีอาจจะออกเป็นกฎกระทรวงหรือกฎหมายอื่นที่ ปปง. สามารถสนับสนุนได้ โดยขั้นตอนการคืนเงินควรจะมีความรวดเร็วในระยะเวลาที่เป็นหลักเดือนไม่ใช่หลักปี ซึ่งเมื่อพิสูจน์แล้วพบว่าเงินที่ยึดได้เป็นเงินของผู้เสียหายและเมื่อคณะกรรมพิจารณาแล้วว่าสามารถพิสูจน์ได้ไม่มีข้อคัดค้านให้คณะกรรมการส่งเรื่องรายงานศาล ศาลไม่ขัดแย้งก็สามารถจ่ายเงินคืนให้ผู้เสียหายได้เลย

นายวิศิษฏ์ วิศิษฏ์สรอรรถ ปลัดกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม กล่าวว่า ในเดือน เม.ย. ที่ผ่านมาสามารถจับกุมคดีออนไลน์รวมทุกประเภทได้จำนวน 6,624 คน เพิ่มขึ้น 2.7 เท่า จากช่วง 3 เดือนแรกของปี 67 (ม.ค.-มี.ค.) ที่สามารถจับกุมได้เฉลี่ย 2,430 คนต่อเดือน จับกุมคดีเว็บพนันออนไลน์ได้ จำนวน 3,667 คน เพิ่มขึ้น 3.1 เท่า จากช่วง 3 เดือนแรกที่สามารถจับกุมได้เฉลี่ย 1,174 คนต่อเดือน

จับกุมคดีบัญชีม้า-ซิมม้า จำนวน 361 คน เพิ่มขึ้น 1.9 เท่า จากช่วง 3 เดือนแรกที่สามารถจับกุมได้เฉลี่ย 187 คนต่อเดือน ปิดโซเชียลมีเดียและเว็บผิดกฎหมายทุกประเภทได้จำนวน 16,158 รายการ เพิ่มขึ้น 18 เท่า จากช่วงเดียวกันของปี 66 ปิดเว็บพนันได้จำนวน 6,515 รายการ เพิ่มขึ้น 38.8 เท่า จากช่วงเดียวกันของปี 66

สามารถระงับบัญชีม้าแล้วกว่า 700,000 บัญชี แบ่งเป็น ธนาคารระงับเอง 300,000 บัญชี เอโอซีระงับ 101,375 บัญชี ปปง.ปิด 325,586 บัญชี ระงับซิมม้า-ซิมต้องสงสัยแล้ว 800,000 หมายเลข ระงับหมายเลขโทรออกเกิน 100 ครั้ง/วัน แล้ว 36,641 หมายเลข

นอกจากนี้ยังสามารถกวาดล้างซิมม้าและซิมต้องสงสัย สำนักงาน กสทช. ได้กำหนดหลักเกณฑ์ในการลงทะเบียนเพื่อยืนยันตัวตนสำหรับผู้ถือครองซิมการ์ดมากกว่า 100 ซิม โดยครบกำหนดการยืนยันตัวตนเมื่อวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2567 มีผู้มายืนยันตัวตนแล้ว จำนวน 2.58 ล้านหมายเลข และยังไม่มายืนยันตัวตน อีกจำนวน 2.5 ล้านหมายเลข ซึ่งที่ไม่ได้มายืนยันตัวตน ถูกระงับหมายเลขแล้ว 1.46 ล้านหมายเลข และ อยู่ระหว่างดำเนินการระงับ 1.04 ล้านหมายเลข