นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.คลัง เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะอนุกรรมการกำกับโครงการเติมเงิน ดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท ได้สรุปความเห็นที่จะปรับลดวงเงินโครงการจาก 5 แสนล้านบาท เหลือ 4.5 แสนล้านบาท เนื่องจากประเมินว่าผู้มีสิทธิจะมาลงทะเบียนเข้าโครงการไม่ครบทุกคน แต่หากมีคนสมัครเข้ามาเต็มถึง 50 ล้านคน ก็สามารถปรับงบเพิ่มเติมได้ นอกจากนี้ ยังได้รับข้อเสนอการปรับแหล่งงบประมาณที่ใช้ทำโครงการ จากเดิมที่จะใช้เงินจาก 3 แหล่ง ได้แก่ 1.การบริหารงบฯ ปี 67 จำนวน 175,000 ล้านบาท 2.การดำเนินการผ่านหน่วยงานภาครัฐ ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร 172,300 ล้านบาท และ 3.งบประจำปี 68 อีก 152,700 ล้านบาท
ทั้งนี้ จะปรับเป็นใช้แหล่งเงินใหม่จากงบประมาณปี 67 และปี 68 เท่านั้น โดยจะไม่ใช้เงินจากธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เนื่องจากมีการข้อเสนอจากสำนักงบประมาณ และกระทรวงการคลัง ว่าไม่ควรตั้งงบประมาณที่สูงเกินไป เพราะจะทำให้เสียโอกาสนำเงินไปพัฒนาด้านอื่น
สำหรับแหล่งเงินที่จะนำมาใช้สำหรับดำเนินโครงการดิจิทัลตามข้อเสนอใหม่ วงเงิน 4.5 แสนล้านบาท จะนำมาจาก 2 แหล่ง ได้แก่ การใช้งบจากงบประมาณปี 67 จำนวน 160,000 ล้านบาท แบ่งเป็น งบประมาณเพิ่มเติม 122,000 ล้านบาท และงบประมาณจากการบริหารจัดการอีก 40,000 ล้านบาท และการใช้งบจากงบประมาณปี 2568 จำนวน 2.85 แสนล้านบาท แบ่งเป็นงบประมาณประจำ 152,700 ล้านบาท และงบจากการบริหารจัดการอีก 132,300 ล้านบาท