เมื่อไม่นานมานี้มีการเปิดเผยกรณีสุดพิสดารของคนไข้ชายวัย 53 ปีจากรัสเซียซึ่งมีอาการเจ็บซี่โครงเป็นประจำ ซึ่งสาเหตุของอาการเจ็บมาจากวัตถุมีคมที่ฝังอยู่ในร่างกายของเขา

หลังจากทนกับอาการเจ็บปวดมานานร่วม 10 ปี คนไข้ชายรายนี้ก็เข้ารับการตรวจรักษาที่โรงพยาบาลในแคว้นคีรอฟ ประเทศรัสเซีย และเมื่อแพทย์ผู้รักษาสั่งให้ทำซีทีสแกนร่างกายของเขาในบริเวณที่รู้สึกเจ็บ ก็พบสาเหตุที่ชวนตะลึง

ผลจากการทำซีทีสแกนพบว่าคนไข้ชายผู้นี้มีเศษแก้วยาว 9 ซม. ฝังอยู่ในบริเวณตับฝั่งขวา แต่เมื่อสอบถามคนไข้ เขาก็จำไม่ได้ว่าเศษแก้วชิ้นนี้เข้าไปอยู่ในร่างกายของเขาได้อย่างไร

เมื่อซักประวัติป่วยไข้ คนไข้รายนี้ก็บอกว่าเขาไม่เคยได้รับบาดเจ็บครั้งใหญ่มาก่อนหน้านี้ ส่วนทีมศัลยแพทย์ของโรงพยาบาลประจำแคว้นคีรอฟซึ่งเป็นสถานที่ที่เขาเข้ารับการรักษา ก็ลงมือผ่าตัดแบบส่องกล้องเพื่อนำเศษแก้วชิ้นดังกล่าวออกจากร่างกายของชายคนนี้ โดยใช้เวลาประมาณ 2 ชม. 

หนึ่งในทีมศัลยแพทย์ให้สัมภาษณ์ว่า พวกเขาประหลาดใจอย่างที่สุดเมื่อเห็นภาพของเศษแก้วขนาด 88 x 15 x 7 มม. ขอบคม ปรากฏอยู่บนจอมอนิเตอร์ ในระหว่างที่ผ่าตัดอยู่นั้น ทีมแพทย์ก็พบว่ามีเนื้อเยื่อห่อหุ้มอยู่รอบเศษแก้วดังกล่าว ซึ่งเป็นปฏิกิริยาตอบสนองตามธรรมชาติของร่างกายมนุษย์ 

เมื่อพบสิ่งแปลกปลอมอยู่ภายในเนื้อเยื่อของอวัยวะ ร่างกายของเราจะเกิดอาการอักเสบแบบไม่ติดเชื้อ จากนั้นก็จะสร้างเนื้อเยื่อห่อหุ้มรอบ ๆ สิ่งแปลกปลอม เพื่อกันให้สิ่งแปลกปลอมนั้นอยู่ห่างจากเนื้อเยื่อที่ยังแข็งแรงอยู่

กรณีเหลือเชื่อของคนไข้รายนี้ได้รับการเผยแพร่โดยกระทรวงสาธารณสุขแห่งแคว้นคีรอฟของรัสเซีย ทีมศัลยแพทย์ที่ผ่าตัดให้คนไข้คนนี้กล่าวว่า คนไข้โชคดีมาก เพราะเศษแก้วดังกล่าวอาจทำให้เกิดอาการอักเสบแบบติดเชื้อ ทำให้เกิดหนองและเป็นฝีในร่างกายได้ ซึ่งจะต้องผ่าตัดรักษาแบบฉุกเฉิน

การผ่าตัดครั้งนี้เป็นกระบวนการที่ละเอียดอ่อนมาก เนื่องจากตับเป็นอวัยวะที่มีโครงสร้างซับซ้อนคล้ายท่อต่อ เนื้อเยื่อมีความอ่อนนุ่มและมีเลือดหล่อเลี้ยงเป็นจำนวนมาก แต่ทีมแพทย์ก็สามารถผ่าเอาเศษแก้วชิ้นนี้ออกมาได้โดยไม่ได้สร้างรอยแผลเป็นขนาดใหญ่และลึกไว้ที่อวัยวะของคนไข้แต่อย่างใด

ที่มา : needtoknow.co.uk

เครดิตภาพ : MINISTRY OF HEALTH OF THE KIROV REGION