จากกรณี น.ส. กลอย อายุ 37 ปี นักธุรกิจสาว ร้องเพจ “สายไหมต้องรอด” ถูกคุณป้ารายหนึ่งฟ้องร้องเอาผิด โดยกล่าวหาว่าเป็นชู้กับคุณลุง อดีตหุ้นส่วนร้านอาหาร ทั้งที่หย่าร้างกับคุณลุงไปนานแล้วกว่า 10 ปี โดยฝ่ายคุณป้า เรียกร้องค่าเสียหาย 2.5 ล้านบาท และฟ้องคุณลุงอดีตสามี 50 ล้านบาท ภายหลังมีการสู้คดีนานหลายปี จนสามีของฝ่าย น.ส.พรพิมล เสียชีวิตเพราะอาการเครียด ขณะที่ศาลพิพากษายกฟ้อง แต่ฝ่ายคุณป้ายังคงไม่หยุดพฤติกรรมคุกคาม ไปแจ้งความกล่าวหาว่าเฉี่ยวชนรถไม่รับผิดชอบ และกล่าวหาว่าเป็นเมียน้อยคุณลุง บอกว่าลุงหลบมาอยู่ที่บ้าน จนตำรวจต้องมาขอค้น ก่อนจะระบุว่าต้องทำตามหน้าที่ ตามที่ได้ปรากฏเหตุการณ์ไปแล้วนั้น
เกี่ยวกับเรื่องนี้ เมื่อวันที่ 20 ส.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในรายการ “ถกไม่เถียง” ทางช่อง 7HD ดำเนินรายการโดย “ทิน โชคกมลกิจ” ซึ่งได้เชิญ คุณลุงสุ (นามสมมุต) อดีตสามีของ นางสวย (นามสมมุติ) คู่กรณีของ น.ส.กลอย ได้มาออกรายการ เพื่อชี้แจงข้อเท็จจริงโดยยืนยัน ความสัมพันธ์ของกับ คุณกลอย ว่าเป็นเพียงหุ้นส่วนทางธุรกิจเท่านั้น ไม่เคยมีเรื่องชู้สาวแต่อย่างใด
โดยคุณลุงสุ ได้อ้างถึงเหตุผลที่เกิดเรื่องราวขึ้นให้ฟังว่า สาเหตุที่ คุณป้าสวย ไม่พอใจพยายามฟ้องร้องเอาเงินของตน ก็เพราะจับได้ว่าตนไปมีความสัมพันธ์กับพี่สาวของเขา ทำให้โดนฟ้องหย่าเรียกทรัพย์สินมูลค่ากว่า 40 ล้านบาท ขณะอยู่ในสหรัฐ เมื่อตนกลับมาเมืองไทย อีกฝ่ายต้องการทรัพย์สินในเมืองไทยอีก จึงได้สร้าเรื่องพาดพิงไปยัง คุณกลอย กล่าวหาว่า เป็นชู้กับตน เรียกเงินอีกหลายล้านบาท เรื่องที่เกิดขึ้นตนเครียดมากถึงขนาดเป็นซึมเศร้า อยากฆ่าตัวตาย แต่ก็ยังต้องทำงานหาเงินเลี้ยงชีพ ทุกวันนี้ที่มีเงินเพราะไปยืมเพื่อนมาซื้อข้าวกิน ต้องขายรถให้ คุณกลอย เพื่อนำเงินมาสู้คดีความ
คุณลุงสุ ยังกล่าวในช่วงท้ายรายการว่า “…เห็นคุณกลอยมาออกรายการแล้ว รู้สึกสงสาร ชีวิตผมไม่สำคัญแต่คนเราต้องมีคุณธรรม โดยเฉพาะกับคนที่ด้อยกว่า อย่าทำแบบนี้เลย เพื่อลูก ๆ ของเรา…”
จากนั้นไม่นาน ปรากฏว่ามีตำรวจเดินทางมาจับกุม คุณลุงสุ ทำให้ทาง “ทิน โชคกมลกิจ” ได้จบรายการ พร้อมเดินทางไปกับตำรวจ พร้อมด้วย “ทนายรณรงค์ แก้วเพชร” เพื่อให้ความช่วยเหลือทางคดีความ คุณลุงสุ ในเบื้องต้นทันที อย่างไรก็ตามมีผู้ชมรายการหลายคนตั้งข้อสงสัยในการทำงานของตำรวจ ว่ามีหมายจับคุณลุงหรือไม่?