เมื่อวันที่ 24 ส.ค. 67 ที่ห้องศรีวิชัย B โรงแรมวังใต้ อำเภอเมืองสุราษฎร์ธานี จังหวัดสุราษฎร์ธานี นายเกรียงไกร แก้วมีศรี ผู้อำนวยการโรงเรียนสุราษฎร์ธานี เปิดกิจกรรมค่ายส่งเสริมและพัฒนาศักยภาพนักเรียนสู่ความเป็นผู้นำ “เพาะกล้านักปกครอง” ปี 2 โดยได้รับเกียรติจากนายศิริพงศ์ อริยสุนทร ผู้อำนวยการกลุ่มงานผลิตสื่อการประชาสัมพันธ์ กองสารนิเทศ สำนักงานปลัดกระทรวงมหาดไทย นายพีรชัย เพชรแก้ว เจ้าพนักงานปกครองชำนาญการ ที่ทำการปกครองจังหวัดสุราษฎร์ธานี นางสาวทิษฏยา เมฆไลย และ นางสาวฐิติวรดา อภิรักษ์เนติพงศ์ เนติบัณฑิตไทยสมัยที่ 76 ร่วมเป็นวิทยากร โดยมีคณะครูกลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม นำโดย นายศรชัย ไกรปราบ หัวหน้ากลุ่มสาระ พร้อมด้วย นางสุวณี สุวรรณพัฒน์ นางณัชพัฒน์ ขจรศักดิ์สิริกุล นางอมรรัตน์ โสกรรณิตย์ นางดวงเดือน จุ้ยเริก นางสาวชุติมา เจริญมาก นางสาวณัฐติยา ผาสุข และนักเรียนผู้สนใจสมัครเข้าร่วมกิจกรรมกว่า 150 คน ร่วมรับฟัง
นายเกรียงไกร แก้วมีศรี ผู้อำนวยการโรงเรียนสุราษฎร์ธานี กล่าวว่า โรงเรียนสุราษฎร์ธานี จัดกิจกรรม “โครงการส่งเสริมศักยภาพและความถนัดของนักเรียนห้องเรียนปกติ กิจกรรมค่ายส่งเสริมและพัฒนาศักยภาพนักเรียนสู่ความเป็นผู้นำ “เพาะกล้านักปกครอง”” เป็นปีที่ 2 โดยได้รับเกียรติจากคณะวิทยากรซึ่งเป็นข้าราชการสังกัดกระทรวงมหาดไทย และเป็นศิษย์เก่าโรงเรียนสุราษฎร์ธานี ผู้มีจิตอาสาช่วยสนับสนุนกิจกรรมต่าง ๆ ของโรงเรียนมาอย่างสม่ำเสมอต่อเนื่อง คือ นายศิริพงศ์ อริยสุนทร (พี่กอล์ฟ) ผู้อำนวยการกลุ่มงานผลิตสื่อการประชาสัมพันธ์ กองสารนิเทศ สำนักงานปลัดกระทรวงมหาดไทย ศิษย์เก่ารุ่น 100 และนายพีรชัย เพชรแก้ว (พี่แจ๊ค) เจ้าพนักงานปกครองชำนาญการ ที่ทำการปกครองจังหวัดสุราษฎร์ธานี ศิษย์เก่ารุ่น 101 และยังได้รับเกียรติจากลูก ๆ ศิษย์เก่า รุ่น 112 ที่สามารถจบปริญญานิติศาสตรบัณฑิต หลังสำเร็จการศึกษาระดับ ม.6 จากโรงเรียนสุราษฎร์ธานี เพียง 8 เดือน และสำเร็จการศึกษาเนติบัณฑิต สมัยที่ 76 ใน 2 ปีถัดมา คือ นางสาวทิษฏยา เมฆไลย (พี่ปาล์ม) และนางสาวฐิติวรดา อภิรักษ์เนติพงศ์ (พี่นิ๊คเนม) ซึ่งได้รับความสนใจจากลูก ๆ นักเรียนที่เข้าร่วมกิจกรรมเป็นจำนวนมาก โดยจากการสังเกตการฝึกอบรมพบว่า นักเรียนที่เข้าร่วมกิจกรรมในครั้งนี้ให้ความสนใจในการประกอบอาชีพทางด้านรัฐศาสตร์ อาทิ ปลัดอำเภอ นักการทูต และตำรวจ รวมถึงให้ความสนใจในการประกอบอาชีพด้านกฎหมาย เช่น ผู้พิพากษา อัยการ และทนายความ เป็นต้น
นายเกรียงไกร กล่าวต่ออีกว่า โรงเรียนสุราษฎร์ธานี ได้จัดกิจกรรมดังกล่าวเป็นปีที่ 2 ซึ่งเป็นโครงการต่อเนื่องจากปีการศึกษา 2566 สืบเนื่องจากฝ่ายบริหารได้มอบหมายให้งานแนะแนวทำการสำรวจข้อมูลความสนใจในการศึกษาต่อระดับอุดมศึกษาของนักเรียนโรงเรียนสุราษฎร์ธานี ชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย พบว่า มีนักเรียนให้ความสนใจศึกษาต่อคณะด้านสังคมศาสตร์และมนุษยศาสตร์ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง คณะรัฐศาสตร์ และคณะนิติศาสตร์ มากถึงร้อยละ 32 ซึ่งหากพิจารณาจากจำนวนดังกล่าวสะท้อนให้เห็นว่านักเรียนให้ความสนใจในการศึกษาเรียนรู้ทางด้านการปกครอง รัฐประศาสนศาสตร์ ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ และด้านกฎหมาย เพิ่มมากขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ นอกเหนือจากการเรียนทางด้านวิทยาศาสตร์สุขภาพ อาทิ คณะแพทยศาสตร์ คณะทันตแพทยศาสตร์ คณะเภสัชศาสตร์ ที่เป็นสาขาวิชาที่นักเรียนและผู้ปกครองโรงเรียนสุราษฎร์ธานีให้ความสนใจมาโดยตลอด
“โรงเรียนสุราษฎร์ธานี ขับเคลื่อนงานด้วยวิสัยทัศน์ “นักเรียนเก่ง ดี มีสุข เป็นโรงเรียนผู้นำด้านวิชาการตามมาตรฐานสากล บริหารด้วยหลักธรรมาภิบาล โดยบุคลากรมืออาชีพและความร่วมมือจากทุกภาคส่วน” ยึดผู้เรียนเป็นศูนย์กลางด้วยการจัดการเรียนการสอนเต็มตามศักยภาพของนักเรียนสู่ความเป็นเลิศควบคู่การพัฒนาหลักสูตรที่มีมาตรฐานอย่างต่อเนื่อง เพื่อเป็นแนวทางในการพัฒนาศักยภาพของนักเรียนตามหลักการบริหารจัดการศึกษาที่เป็นระบบอย่างมีส่วนร่วม เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดแก่โรงเรียน ทั้งนี้ ต้องขอขอบคุณสำนักงานปลัดกระทรวงมหาดไทย และจังหวัดสุราษฎร์ธานี ที่สนับสนุนวิทยากรมาร่วมถ่ายทอดประสบการณ์และแลกเปลี่ยนเรียนรู้เส้นทางสู่อาชีพนักปกครองให้กับนักเรียนในปีนี้อีกครั้งหนึ่ง ทำให้นักเรียนได้รับรู้รับทราบและมีแนวทางในการเลือกอาชีพ ซึ่งจากการแนะนำข้อมูลของวิทยากร ทำให้นักเรียนได้มีองค์ความรู้เกี่ยวกับลักษณะงานของกระทรวงมหาดไทยที่มีความหลากหลาย ทั้งด้านการรักษาความสงบเรียบร้อย ด้านความมั่นคงภายใน ด้านการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย การอำนวยความเป็นธรรม การพัฒนาการบริหารราชการส่วนภูมิภาค การปกครองท้องที่ การส่งเสริมการปกครองท้องถิ่นและพัฒนาชุมชน การทะเบียนราษฎร และการพัฒนาเมือง อันเป็นการบำบัดทุกข์ บำรุงสุข ที่เป็นหน้าที่ของนักปกครอง ควบคู่กับการแนะแนวศึกษาต่อระดับอุดมศึกษาเพื่อไปสู่อาชีพนักปกครอง” นายเกรียงไกร กล่าวเพิ่มเติม
ด้านนายภัทรพงศ์ โพธิ์เพชร นักเรียน ม.5/6 กล่าวว่า จากการรับฟังคำแนะนำของพี่ ๆศิษย์เก่าที่มาเป็นวิทยากรในวันนี้ ทำให้ตนเองและเพื่อน ๆ ได้มีความรู้เกี่ยวกับการเรียนต่อในคณะรัฐศาสตร์และคณะนิติศาสตร์เพิ่มมากขึ้น และได้รู้ว่าการเรียนต่อระดับมหาวิทยาลัย และสายงานอาชีพไปสู่นักปกครองมีความหลากหลาย และที่สำคัญ ทำให้รู้ว่าการเป็นนักปกครอง ต้องดูแลประชาชนตั้งแต่เกิดจนตาย คือ การดูแลคนทุกช่วงวัย และทุกด้าน ไม่ว่าจะในยามปกติ หรือในยามที่มีภัย และตนก็มีความภาคภูมิใจในความสำเร็จของรุ่นพี่หลายท่าน ทั้งท่านผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี คนที่ 50 คือ นายอวยชัย อินทร์นาค คนที่ 51 คือ นายวิชวุทย์ จินโต และคนที่ 52 (ปัจจุบัน) คือ นายเจษฎา จิตรัตน์ ซึ่งตนเองก็จะได้นำความรู้ที่ได้รับ ไปใช้เพิ่มพูนความมุ่งมั่นตั้งใจ เพื่อที่จะได้ศึกษาในระดับอุดมศึกษา และเรียนจบมาทำงาน ทำหน้าที่นักปกครอง เฉกเช่นพี่ ๆ ขอบคุณครับ