ศึกยูโรปา ลีก รอบลีกเฟส เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ทีมดังจากอังกฤษ รอดตายราวปาฏิหาริย์ หลังบุกไปไล่ตามตีเสมอ ปอร์โต จากโปรตุเกส ดุเดือด 3-3 ในช่วงทดเวลาบาดเจ็บ
เกมนี้ แมนฯ ยูไนเต็ด ทำท่าจะคว้าชัยได้สบาย เมื่อบุกไปนำก่อน 2-0 จาก มาร์คัส แรชฟอร์ด ในนาทีที่ 7 และ ราสมุส ฮอยลุนด์ นาทีที่ 20
ทว่าพอตั้งหลักได้ ปอร์โต ก็ลุยแหลก และรัวคืน 2 ประตูรวดจาการโหม่งของ เปเป นาทีที่ 27 และจากการโขกของ ซามู โอโมโรดีออน นาทีที่ 34 ตามตีเสมอเป็น 2-2 ได้สำเร็จ
ครึ่งหลัง โอโมโรดีออน กระทุ้งให้ ปอร์โต พลิกขึ้นนำ 3-2 ในนาทีที่ 50 ขณะที่สถานการณ์ของทีมเยือนยิ่งเลวร้ายลงไปอีกเมื่อต้องเหลือผู้เล่นแค่ 10 คนจากการโดนไล่ออกของ บรูโน แฟร์นันด์ส นาทีที่ 81
ชัยชนะทำท่าจะตกเป็นของ ปอร์โต อยู่แล้ว กระทั่งช่วงทดเจ็บนาทีที่ 90+1 แฮร์รี แม็กไกวร์ ที่ถูกส่งลงเล่นเป็นตัวสำรองในช่วงท้ายเกม ก็สวมบทฮีโร่โขกลูกเตะมุมของ คริสเตียน อีริคเซน เข้าไปเป็นประตูตีเสมอ 3-3 ให้ “ผีแดง” ได้อย่างเหลือเชื่อ
จากการเสมอนัดนี้ทำให้ แมนฯ ยูไนเต็ด มี 2 คะแนนจาก 2 นัดอยู่ที่ 21 ส่วน ปอร์โต มีแต้มเดียวอยู่ที่ 24
ผลคู่อื่น แอธฯ บิลเบา ชนะ อาแซด 2-0, เบซิคตัส แพ้ แฟรงค์เฟิร์ต 1-3, เอล์ฟสบอร์ก ชนะ โรมา 1-0, พีเอโอเค แพ้ สเตอัว บูคาเรสต์ 0-1, วิคตอเรีย พิลเซน เสมอ ลูโดโกเร็ตส์ 0-0, เรนเจอร์ส แพ้ ลียง 1-4, แซงต์ ชิลลัวส์ เสมอ โบโด-กลิมต์ 0-0, ทเวนเต เสมอ เฟเนร์บาห์เช 1-1.
ภาพ AFP