โลกโซเชียล กำลังมีกระแสติด”แฮชแท๊กเลิกลอยกระทง” อย่างที่รู้กระทงสร้างขยะจำนวนมหาศาล สถิติขยะกระทงในปี 2566 กรุงเทพมหานครเก็บรวบรวมไว้ได้จำนวนทั้งสิ้น 639,828 ใบ เพิ่มขึ้น 67,226 ใบ จากปี 2565 ที่จัดเก็บได้จำนวน 572,602 ใบ หรือคิดเป็นร้อยละ 11.74

ภาพจากเพจขยะมรสุม

**กระทงไม่หลงทางเก็บได้กว่า6แสนใบ

กระทงที่เก็บได้ในปี2566 พบว่ากระทงที่ทำจากวัสดุธรรมชาติหรือวัสดุที่ย่อยสลายได้ง่ายและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เช่น หยวกกล้วย ใบตอง มันสำปะหลัง ชานอ้อย ขนมปัง จำนวน 618,951 ใบ ซึ่งคิดเป็นร้อยละ 96.74 ส่วนกระทงที่ทำจากโฟมมีจำนวน 20,877 ใบ คิดเป็นร้อยละ 3.26 ของกระทงทั้งหมด ทั้งนี้ กระทงที่ทำจากวัสดุธรรมชาติ มีจำนวนเพิ่มขึ้นจากร้อยละ 95.70 เป็น ร้อยละ 96.74 ส่วนกระทงโฟมมีจำนวนลดลงจากร้อยละ 4.30 เป็นร้อยละ 3.26นส่วนของการลอยกระทงดิจิทัลผ่าน Projection Mapping ซึ่งเป็นการลอยกระทงมิติใหม่ที่กรุงเทพมหานคร จัดขึ้นเป็นครั้งแรกในเทศกาลลอยกระทงประจำปีนี้ ณ คลองโอ่งอ่าง บริเวณสะพานบพิตรพิมุข มีประชาชนให้ความสนใจร่วมลอยกระทง จำนวน 3,744 ใบในปีนี้คาดว่าจำนวนกระทงน่าจะมากว่าปีที่แล้ว เพราะวันลอยกระทงเป็นคืนวันศุกร์

ภาพจากเพจขยะมรสุม

**กระทงวัสดุธรรมชาติใช้เวลาย่อยสลาย

แต่ละปีเรารณรงค์ให้สร้างสรรค์กระทงจากวัสดุธรรมชาติ แต่ไม่ยั่งยืน เพราะกระทงธรรมชาติมารวมตัวกันในวันกระทงเกิดปัญหาน้ำเน่าเสียตามมา กลายเป็นขยะอินทรีย์ก่อให้เกิดก๊าซมีเทน ซึ่งก๊าซมีเทนทำให้เกิดภาวะโลกร้อนมากกว่าการเผาไหม้จากน้ำมัน เรียงลำดับการย่อยสลายของกระทงธรรมชาติ

กระทงน้ำแข็ง ใช้เวลาย่อยสลาย 1 ชั่วโมงกระทงขนมปัง ใช้เวลาย่อยสลาย 3 วัน

กระทงโคนไอศกรีม ใช้เวลาย่อยสลาย 3 วัน

กระทงกระดาษ ใช้เวลาย่อยสลาย 2-5 เดือน 

กระทงกล้วย ใช้เวลาย่อยสลาย 14 วัน

กระทงกะลา ใช้เวลาย่อยสลาย 15 วัน

** Won Phen กระทงไร้ขยะ ใช้ซ้ำไม่รู้จบ

ลอยกกระทงปี 2567 ได้มีการเปิดตัวครั้งแรก น้อง วันเพ็ญ’ Won Phen มีที่มาจาก Wonderful Phenomenon ที่แปลว่า ปรากฏการณ์อันมหัศจรรย์ที่ทำให้เกิดประเพณีอันสวยงามนี้ขึ้นทุกปี กระทงไร้ขยะ ใช้ซ้ำได้ไม่รู้จบ โดย“ก้องกรีนกรีน” ร่วมกับ Qualy สตูดิโอด้านออกแบบ และมูลนิธิ TerraCycle Thai ที่มีวัตถุประสงค์ลดขยะในแม่น้ำลำคลอง พร้อมรักษาประเพณีลอยกระทง รักษาแหล่งน้ำและสิ่งแวดล้อม ไปพร้อมๆ กัน โดยนำขยะพลาสติกจากคลองลาดพร้าวมาสร้างสรรค์เป็นกระทง นำกลับมาลอยซ้ำโดยที่ไม่สร้างขยะในลำน้ำต่อไปอีก และยังใช้วิธีเช่าแทน รายได้นำเข้ามูลนิธิฯ เพือเป็นค่าใช้จ่ายในการจ้างงานคนเก็บขยะต่อไป

Won Phen ผลิตมาจากขยะพลาสติกเบอร์5 ซึ่งเป็นขวดแชมพู ฝาขวดน้ำ และเบอร์ 2 กล่องพลาสติกบรรจุอาหารที่ใส่ไมโครเวฟได้ พลาสติก2 ชนิดนี้มีความเหนียวและทนทาน นำมาหลอมแล้วขึ้นรูปใหม่ ทำเป็นรูปกระทง และมีพื้นที่สำหรับใส่เทียน โดยได้เตรียม “ Won Phen” ไว้จำนวน 700-1,000 ใบ สำหรับผู้ไปลอยกระทง ณ งานลอยกระทง ณ วัดอรุณราชวราราม ราชวรมหาวิหาร ที่บูท สถาบันไทยศึกษา จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ในวันที่ 15 พ.ย. 2567 เวลา 16:00 – 22:00 น.ค่าเช่ากระทงใบละ 59 บาท ซึ่ง “Won Phen”จะนำไปลอยในแหล่งน้ำแบบปิด ห้ามนำลอยในแม่น้ำเจ้าพระยา เมื่อลอยเสร็จแล้วจะมีเจ้าหน้าที่เก็บกลับมาทำความสะอาด แล้วนำกลับมาใช้ซ้ำวนไป

**กระทงเน่าเต็มคลองลาดพร้าว

ทักข์ศรณ์ ธรรศณัฐพงศ์ ผู้ช่วยกรรมการบริหาร มูลนิธิ TerraCycle Thai เล่าว่า จุดเริ่มต้นของ Won Phen มาจากมูลนิธิฯได้ทำงานเก็บขยะในคลองลาดพร้าว ซึ่งมีระยะทางยาว 24 กม. ดำเนินงานมาแล้ว 4 ปี ตัวเลขขยะที่เก็บได้เฉลี่ยวันละ 1 -1.5 ยิ่งในหลังวันลอยกระทงพบว่าขยะเพิ่มขึ้นเกือบ 2 ตัน โดยวิธีเก็บขยะคลองลาดพร้าวใช้ทุ่นดักขยะ 4 จุด เริ่มต้นบริเวณซ.ลาดพร้าว 80 ไปจนถึงบริเวณราบ 11 ระยะทาง5 กม.ในแต่ละวันจะมีเรือจำนวน 2 ลำ พร้อมคนงานประมาณ4-5 คนไปตักขยะขึ้นเรือ แล้วนำมาเทกอง ทิ้งให้ขยะแห้ง ใช้พื้นที่บริเวณลาดพร้าววังหิน 43 โดยขยะที่เก็บได้จะไม่นำสู่หลุมฝังกลบ ใช้ระบบคัดแยก ขยะที่รีไซเคิลไม่ได้ จะรวบรวมไว้เป็นเชื้อเพลิงให้กับโรงไฟฟ้าต่อไป

ทักข์ศรณ์ เล่าว่าทุกปี เช้าหลังวันลอยกระจะพบขยะกระทงจำนวนมาก ไม่ว่ากระทงจากใบตอง ขนมปัง กาบกล้วย โฟม รวมๆแล้วเกือบ 2 ตัน แม้กทม.จะเก็บมาตั้งแต่เที่ยงคืน แต่ปรากฏว่าในตอนเช้ายังมี “ขยะกระทง”มากองรวมกันในคลองลาดพร้าว ขยะกระทงบางส่วนไหลมาจากจ.ปทุมธานี เราไม่สามารถนำขยะเหล่านี้ไปทำปุ๋ยได้ ได้แต่เก็บ ตากให้แห้งรวบรรวมใส่ถัง เพื่อนำไปเป็นเชื้อเพลิงในโรงไฟฟ้าต่อไป ซึ่งต้องใช้เวลามากกว่าขยะปกติ

**เก็บขยะต้นทางก่อนไหลสู่ทะเล

ประเทศไทยเป็น 1 ใน 10 ประเทศที่พบปัญหาขยะพลาสติกในทะเล TerraCycle Thai เป็นเอ็นจีโอที่ทำเรื่องนี้ จนวันนี้เข้าสู่ปี5 โดยเป้าหมายหลักคือการลดขยะในทะเลและแหล่งน้ำธรรมชาติ เรามองว่าขยะจากในคลองจะไหลไปลงแม่น้ำเจ้าพระยา และสุดท้ายจะลงทะเล ดังนั้นจึงต้องป้องกันตั้งแต่ต้นทาง ที่สำคัญขยะพลาสติกเมื่อไหลลงสู่ทะเลกลายเป็นไมโครพลาสติก ที่ไปปนเปื้อนในสัตว์ทะเลย้อนกลับมาที่ร่างกายของทุกคน โดยทำงานร่วมมือกับสำนักเขตลาดพร้าว จตุจักร และห้วยขวาง ซึ่งดูแลคลองลาดพร้าว และพื้นที่ของคลองสามารถวางทุ่นดักขยะได้ เพราะไม่มีเรือสัญจรถ้าเทียบกับคลองแสนแสบ” ทักข์ศรณ์ บอกเล่า

เรือตักขยะอยู่ลอยอยู่ในคลองลาดพร้าว อีกหน้าที่หนึ่งสร้างจิตสำนึกให้กับผู้คน ที่มีบ้านเรือนที่อาศัยอยู่ริมคลอง ไม่ทิ้งขยะลงในคลองเหมือนเช่นที่ผ่านมา หลายบ้านเปลี่ยนพฤติกรรมวางขยะไว้หน้าบ้าน จากเดิมจะเห็นขยะชิ้นใหญ่ไม่ว่าจะเป็นที่นอน เครื่องใช้ไฟฟ้า ถูกโยนลงสู่คลอง ขณะเดียวยังได้ทำงานรณณรงค์ร่วมกับโรงเรียน ให้เด็กๆได้มาเรียนรู้การเก็บขยะคัดแยกขยะ เพื่อสร้างจิตสำนึกพลเรือนในระยะยาวต่อไป

**“กระทงจาน”อีกทางเลือกในการลอย

ประเพณีลอยกระทงยังเป็นเรื่องราวที่ต้องสืบสาน ถือว่าเป็นซอฟต์พาวเวอร์ของประเทศไทย แต่ในภาวะโลกเดือดต้องปรับตัว สถาบันไทยศึกษา จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ยังได้นำเสนอลอยกระทงจาน มีที่มาจาก ถิ่นเมืองด้ง ต.บ้านตึก อำเภอศรีสัชนาลัย จังหวัดสุโขทัย มาจัดแสดงผลงานเกี่ยวกับ “ประเพณีลอยกระทงสร้างสรรค์ เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม” ณ วัดอรุณราชวราราม โดยทุกคนสามารถนำกระทงจานไปลอยได้ฟรี ในแหล่งน้ำแบบปิดที่ทางผู้จัดงานเตรียมไว้ให้

รศ.ดร.เปรม สวนสมุทร รองผู้อำนวยการสถาบันไทยศึกษา เล่าว่า ปี พ.ศ. 2512 ต.บ้านตึก เกิดปรากฏการณ์น้ำเน้ำในลำคลองเน่าเสีย อีกฝั่งคลองที่เป็นนาข้าวมีกระทงส่วนหนึ่งลอยไปติดนาข้าว ทำให้นาข้าวของชาวบ้านได้รับความเสียหาย ต่อมาพ.ศ. 2514 ชาวบ้านภูนกจึงแก้ปัญหาด้วยการนำจานมาลอยเป็นกระทงนกระทงจานจะมีดอกไม้ ธูป เทียน หมาก พลู เพื่อบูชาและขอขมาพระแม่คงคาตามประเพณี โดยได้จัดการบูชากระทงจานใบละ 2 บาท เมื่อจบงานประเพณีก็จะเก็บกระทงจานมาบริจาคให้แก่วัดเพื่อนำไปใช้ในโอกาสต่างๆ ต่อมาก็เผยแพร่หลายไปทั้งตำบล และถือปฏิบัติต่อกันเป็นประจำทุกปีจนถึงทุกวันนี้

ปัจจุบัน ชมรมส่งเสริมการท่องเที่ยวโดยชุมชนเมืองด้ง ยังคงสืบสานประเพณีลอยกระทงจาน เมืองด้ง เป็นประจำทุกปี นอกจากกิจกรรมลอยกระทงจานที่ระลึกถึงคุณค่าของแม่น้ำลำคลองแล้ว มีงานสนุกสนานรื่นเริงสำหรับชาวชุมชนและนักท่องเที่ยว ทั้งการขบวนแห่กระทงจาน ขบวนผ้าป่า ขบวนรำวง การแสดงจุดพลุดอกไม้ไฟ การแสดงบนเวที รำนางโยน รำพัตรานารีศรีเมืองด้ง การแสดงดนตรีไทยของนักเรียนโรงเรียนเมืองด้งวิทยาและโรงเรียนบ้านตึก และจำหน่ายอาหารพื้นถิ่น และสินค้าชุมชน

** ลอยกระทงจะเป็น “มรดกโลก” ต้องยั่งยืน

รศ.ดร.เปรม เปิดเผยว่าขณะนี้สถาบันไทยศึกษา กำลังจัดทำข้อมูลประเพณีลอยกระทง เพื่อนำเสนอต่อการพิจารณาของยูเนสโก ให้ประเพณีลอยกระทงถูกบรรจุเป็นมรดกโลก ซึ่งการสืบสานประเพณีต้องสอดคล้องกับเรื่องความยั่งยืน อันเป็นเทรนด์ของโลก ดังนั้นจะต้องส่งเสริมให้เกิดกิจกรรมลอยกระทงรักษ์โลก ซึ่งไอเดียการลอยกระทง “Won Phen กระทงไร้ขยะ ใช้ซ้ำไม่รู้จบ” เปิดตัวเป็นปีแรก และหวังว่าจะได้รับเสียงตอบรับจากประชาชน ขณะเดียวกัน “กระทงจาน” ก็เป็นอีกทางเลือกสำหรับประเพณีลอยกระทง ที่ไม่สร้างขยะให้กับแหล่งน้ำ อยู่ในบ่อระบบปิด ที่ผู้จัดงานสามารถเก็บกลับขึ้นมาใช้ซ้ำได้ทุกปี

ใครเบื่อกระทงออนไลน์ ลองไปทดลองไปลอยกระทง “กระทงวน” “กระทงจาน”รับรองกระทงไม่หลงทางไปทำร้ายแม่น้ำลำคลอง