“ทีมข่าวนวัตกรรมขนส่งเดลินิวส์” รายงานว่า ปลายเดือน พ.ย. 67 นี้ คาดว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) จะยังไม่สามารถเปิดใช้อุโมงค์ผาเสด็จ ในโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ สายตะวันออกเฉียงเหนือ (อีสาน) ช่วงมาบกะเบา-ชุมทางถนนจิระ ตามที่ รฟท. ระบุไว้ก่อนหน้านี้ได้ เนื่องจากยังอยู่ระหว่างตรวจวัดเกณฑ์มาตรฐานค่าฝุ่นละออง และค่ามลพิษภายในอุโมงค์ ของกรมควบคุมมลพิษ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และบริษัทเอกชน ผู้ให้บริการตรวจวัดคุณภาพอากาศในปล่องระบายอากาศ เพื่อสร้างความมั่นใจ และสร้างความปลอดภัยในการให้บริการแก่ผู้โดยสารอย่างแท้จริง เบื้องต้น รฟท. ปรับแผนใหม่เพื่อเปิดใช้งานอุโมงค์ผาเสด็จ ตั้งแต่วันที่ 3 ธ.ค. 67
ระหว่างวันที่ 25 พ.ย.-2 ธ.ค. 67 รฟท., กรมควบคุมมลพิษ และบริษัทเอกชน ผู้ให้บริการตรวจวัดคุณภาพอากาศฯ จะร่วมกันตรวจสอบค่าฝุ่นละออง และค่ามลพิษ ภายในอุโมงค์อีกครั้ง โดยจะตรวจสอบคุณภาพอากาศ ควัน และกลิ่นภายในอุโมงค์ ทั้งก่อนนำรถเข้าอุโมงค์ และหลังนำรถเข้าวิ่งผ่านอุโมงค์
นอกจากนี้ ผู้เกี่ยวข้องจะซักซ้อมการทดสอบเรื่องคลื่นสัญญาณวิทยุในการติดต่อสื่อสารระหว่างขบวนรถเข้าในอุโมงค์ กับสถานีมาบกะเบา และสถานีมวกเหล็ก รวมถึงศูนย์ควบคุมด้วย ในส่วนของการแก้ไขประแจ ซึ่งเป็นจุดที่สับรางรถไฟให้เกิดการเปลี่ยนทิศทาง ทั้ง 2 ข้าง เพื่อให้การเดินรถเกิดความปลอดภัยนั้น รฟท. ดำเนินการเสร็จแล้ว ฝ่ายการอาณัติสัญญาณและโทรคมนาคม รฟท. อยู่ระหว่างส่งมอบประแจให้ฝ่ายปฏิบัติการเดินรถ เพื่อประกาศเปิดใช้ประแจ สำหรับเดินรถไฟในรูปแบบทางคู่ผ่านอุโมงค์ผาเสด็จต่อไป
ทั้งนี้ตั้งแต่วันที่ 3 ธ.ค. 67 ขบวนรถทั้งปรับอากาศ และรถพัดลม จะเข้ามาเดินรถผ่านภายในอุโมงค์ผาเสด็จทุกขบวน เริ่มตั้งแต่ขบวนรถด่วนที่ 72 (อุบลราชธานี-กรุงเทพอภิวัฒน์) วิ่งเข้าอุโมงค์เป็นขบวนแรกสำหรับเที่ยวล่อง และขบวนรถด่วนที่ 71 (กรุงเทพอภิวัฒน์-อุบลราชธานี) วิ่งเข้าอุโมงค์เป็นขบวนแรกสำหรับเที่ยวขึ้น
การเปิดใช้อุโมงค์ผาเสด็จและอุโมงค์หินลับ จะช่วยให้การเดินทางรถไฟทางคู่สายอีสาน มีความล่าช้าลดลง และตรงต่อเวลามากขึ้น ทำให้ขีดความสามารถเดินรถเร็วขึ้นจากตารางเวลาเดิมประมาณ 20 นาที
สำหรับอุโมงค์ผาเสด็จ เป็นอุโมงค์ที่ยาวที่สุดในประเทศไทย มีระยะทาง 5.4 กม. รฟท. เปิดให้ขบวนรถเข้าใช้บริการเมื่อวันที่ 28 ก.ค. 67 เป็นวันแรก แต่เมื่อขบวนรถไฟวิ่งเข้าอุโมงค์ กลับมีฝุ่นตลบเข้าห้องโดยสารพัดลมชั้น 3 เกาะติดตามเนื้อตัวและสัมภาระผู้โดยสาร จากนั้นได้ทำความสะอาดอุโมงค์ และมีแผนเปิดบริการในวันที่ 12 ส.ค. 67 แต่ไม่สามารถเปิดได้ เนื่องจากยังพบว่า ค่าฝุ่น และค่ามลพิษ เกินมาตรฐาน จะส่งผลกระทบต่อผู้โดยสารได้ อาทิ แสบตาและระคายคอ
นอกจากนี้ ยังพบว่าประแจทั้ง 2 ข้าง ยังไม่เรียบร้อยดี เกี่ยวข้องกับความปลอดภัย จึงต้องเร่งแก้ไขให้เรียบร้อย เพื่อให้กลับมาเดินรถเข้าอุโมงค์ได้อีกครั้งในเดือน ก.ย. 67 แต่จนปัจจุบันก็ยังไม่สามารถใช้งานอุโมงค์ได้