สืบเนื่องจากนโยบาย นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้สั่งให้เร่งแก้ปัญหาอาชญากรรมออนไลน์อย่างจริงจัง โดย พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร., พล.ต.อ.ธนา ชูวงศ์ รอง ผบ.ตร. และ พล.ต.อ.ธัชชัย ปิตะนีละบุตร จตช. ในฐานะ ผอ.ศปอส.ตร. จึงได้สั่งการให้ พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผบช.สอท. รับนโยบายก่อนสั่งการให้ พล.ต.ต.ภูมิพัฒน์ ภัทรศรีวงษ์ชัย ผบก.สอท.5 มอบหมายให้ พ.ต.อ.กฤษดา มานะวงศ์สกุล ผกก.1 บก.สอท.5 สืบสวนจับกุมผู้ต้องหาที่กระทำผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมออนไลน์และเร่งกวาดล้างจับกุม

ล่าสุดเมื่อวันที่ 9 ม.ค. พ.ต.อ.กฤษดา มานะวงศ์สกุล ผกก.1 บก.สอท.5 พ.ต.ท.ปภาณ บุตรดีขันธ์ รอง ผกก.1 บก.สอท.5 พ.ต.ต.สุธี บุดดีคำ สว.ฯ กก.1 บก.สอท.5 ร.ต.อ.ขวัญชัย ปานคง รอง สว.กก.1 บก.สอท.5 พร้อมชุดสืบสวน สืบทราบจนพบว่าเว็บไซต์พนันออนไลน์ซึ่งมีชื่อว่าเว็บไซต์ “Mafia88” ซึ่งเป็นเว็บไซต์ที่มีการลักลอบจัดให้มีการเล่นพนันออนไลน์ มอมเมาประชาชนและเยาวชนเข้าเล่นพนันออนไลน์อย่างแพร่หลาย แทรกซึมเข้ากลุ่มทำงานโรงงาน เยาวชนและประชาชนทั่วไปเข้าเล่นพนัน ซึ่งอาจก่อให้เกิดปัญหาอาชญากรรม และผลกระทบต่อสังคมตามมาได้ จึงนำกำลังจับกุมผู้ต้องหา 7 ราย ในพื้นที่ จ.ชลบุรี พร้อมยึดของกลาง อาทิ โทรศัพท์มือถือ สมุดบัญชีธนาคาร บัตรกดเงินสด พร้อมของกลางอื่น รวม 14 รายการ

จากการสืบสวนทราบว่า นายอนุรักษ์ ผู้ต้องหาในคดีนี้ทำหน้าที่กดเงินสดจากตู้กดเงินในพื้นที่ชลบุรี นายณัฐชานนท์ ที่ทำหน้าที่ฟอกเงินพนันออนไลน์เป็นเหรียญดิจิทัลผ่านไฟแนนซ์และบัญชีธนาคาร ได้ค่าตอบแทน 10,000–20,000 บาทต่อครั้ง และผู้ต้องหาอีกส่วนเป็นผู้เปิดบัญชีธนาคารคนละ 3-5 บัญชีให้เครือข่ายเว็บพนันได้รับค่าเปิดบัญชีละ 1,000 บาท

จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้ขยายผลจับกุมเพิ่มอีก 2 ราย ในพื้นที่ จ.ปทุมธานี และ จ.อ่างทอง ซึ่งมีพยานหลักฐานเชื่อมโยงกับเว็บไซต์พนันออนไลน์เดียวกัน โดย นายอนุชา อายุ 30 ปี ผู้ต้องหารับว่าตนเป็นผู้กดเงินจากบัญชีเว็บพนันในพื้นที่ จ.ปทุมธานี หลายครั้งพบเงินหมุนเวียน 3 ล้านบาทต่อเดือน และนายโอภาส อายุ 48 ปี พร้อมยึดของกลาง อาทิ โทรศัพท์มือถือ แท็บเล็ต สมุดบัญชีธนาคาร พร้อมของกลางอื่น รวม 4 รายการ รวมจับผู้ต้องหาเครือข่ายพนันออนไลน์เว็บไซต์ “Mafia88” จำนวน 9 ราย

ซึ่งได้แจ้งข้อหา “ร่วมกันจัดให้มีการเล่น หรือทำอุบายล่อ ช่วยประกาศโฆษณาหรือชักชวนโดยทางตรงหรือทางอ้อมให้ผู้อื่นเข้าเล่น หรือเข้าพนันในการเล่นทางสื่ออิเล็กทรอนิกส์โดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงาน สมคบโดยการตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดฐานฟอกเงินและได้มีการกระทำความผิดฐานฟอกเงินเพราะเหตุที่ได้มีการสมคบกัน และร่วมกันฟอกเงิน”
ทั้งนี้ตำรวจอยู่ระหว่างการสืบสวนขยายผลเพื่อจับกุมผู้ร่วมขบวนการที่ยังหลบหนี และตรวจสอบเส้นทางการเงิน เพื่อยึดและอายัดทรัพย์สินที่ได้มาจากการกระทำผิดมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป