เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 17 ม.ค. 68 ที่ กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด (บช.ปส.) พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผู้ช่วย ผบ.ตร., พล.ต.ท.สันติ ชัยนิรามัย ผบช.ปส. พร้อมเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ร่วมเดินทางมาติดตามผลการปิดล้อมตรวจค้นเพื่อจับกุมยึดทรัพย์เครือข่ายยาเสพติดพร้อมกันทั่วประเทศ โดยเป็นการทำงานร่วมกันระหว่างตำรวจภูธรภาค 1-9, กองบัญชาการตำรวจนครบาล, กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด ร่วมบูรณาการกับเจ้าหน้าที่จากสำนักงาน ป.ป.ส. ซึ่งมีผลการปิดล้อมในห้วงเวลา 1 ธ.ค.-17 ม.ค. จำนวน 1,947 เครือข่ายเป้าหมาย ปิดล้อมตรวจค้น 8,635 จุด ตรวจค้นคดียาเสพติด 13,703 คดี ผู้ต้องหา 13,960 คน จับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับ 530 หมายจับ ตรวจยึดของกลาง ได้แก่ ยาบ้า 47.78 ล้านเม็ด, ไอซ์ 4 ตัน, เคตามีน 575 กก., เฮโรอีน 192 กก., ยาอี 2,763 เม็ด อาวุธปืน 469 กระบอก ตรวจยึดอายัดทรัพย์สิน รวมมูลค่า 464 ล้านบาทเศษ

นอกจากนี้ บช.ปส. ร่วมกับเจ้าหน้าที่ทหาร และ ป.ป.ส. โดย พล.ท.กัณห์ สถิตยุทธการ ผู้อำนวยการศูนย์ประสานการปฏิบัติที่ 2 กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร, นายปฤณ เมฆานันท์ ผู้อำนวยการสำนักปราบปรามยาเสพติด พร้อมเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ร่วมกันแถลงการขยายผลเครือข่ายค้ายาเสพติด 2 รายสำคัญ

พ.ต.ท.จุติ เจริญพักตร์ รอง ผกก.1 บก.ปส.3 เปิดเผยว่า คดีที่ 1 สืบเนื่องจาก บก.ปส.3 ร่วมกับ CIB ตำรวจไต้หวันประจำประเทศไทย ทำการสืบสวนกลุ่มนักค้ายาเสพติดระหว่างประเทศ พบมีกลุ่มบุคคลในเครือข่าย เตรียมการลำเลียงยาเสพติดจำนวนมากเพื่อส่งออกไปยังต่างประเทศ กระทั่งวันที่ 9 ม.ค. พบความเคลื่อนไหวกลุ่มบุคคลหลายคน เข้าออกโกดังในพื้นที่ จ.สมุทรปราการ เจ้าหน้าที่จึงได้แสดงตนเป็นเจ้าหน้าที่เข้าทำการตรวจค้นโกดังดังกล่าว พบไอซ์จำนวน 201 กก. ซุกซ่อนอำพรางกับกล่องขนมขบเคี้ยว เตรียมขนส่งอำพรางเป็นสินค้ารวมกองบนพาเลทสินค้า และยังพบสารเหลว เหนียว สีเหลือง ไม่ทราบชนิด บรรจุในขวด จำนวน 225 กก. จึงได้จับกุมผู้ต้องหาชาวเมียนมาในโกดังดังกล่าว จำนวน 5 คน โดยทั้งห้าคนให้การว่า ได้รับการว่าจ้างจากชายชาวไต้หวัน ให้มาจัดแพ็กยาเสพติด ก่อนจะลำเลียงส่งและพื้นที่ต่างๆ ทั่วประเทศ ซึ่งขณะนี้ อยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐาน เพื่อขอศาลอนุมัติออกหมายจับ

พ.ต.อ.จตุรภัทร์ ภิรมย์แก้ว รอง ผบก.ปส.1 กล่าวว่า คดีที่ 2 เจ้าหน้าที่ บก.ปส.1 สืบสวนสอบสวนขยายผลเครือข่ายยาเสพติดข้ามชาติลักลอบส่งออกยาเสพติดไปยังประเทศออสเตรเลีย เกาหลี และไต้หวัน นำไปสู่การเปิดปฏิบัติการสยบไพรี “ปราบนักค้ายาเสพติดข้ามชาติ” ซึ่งมีการปิดล้อมตรวจค้น จำนวน 20 จุด ผลการปฏิบัติสามารถจับกุมผู้ต้องหาที่อยู่ในเครือข่ายได้ จำนวน 5 คน รวม 6 หมายจับ และผู้ร่วมขบวนการอีกจำนวน 3 คน

โดยในระหว่างปฏิบัติการครั้งนี้ เจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติยังสามารถตรวจยึดเฮโรอีนได้อีก จำนวน 40 แท่ง น้ำหนักประมาณ 15 กก., เคตามีน 42.5 กรัม, MDMA 26 กรัม, ไอซ์ 0.75 กรัม, ยาบ้า 1,000 เม็ด และยาอี 41.5 กรัม และยึดทรัพย์สินประมาณ 35 ล้านบาท ซึ่งในการตรวจยึดยาเสพติดครั้งนี้ เครือข่ายมีแผนประทุษกรรมซุกซ่อนยาเสพติดในสินค้าชนิดต่างๆ อาทิ เตาอั้งโล่ ส่งไปยังประเทศปลายทาง ผ่านทางบริษัทขนส่งเอกชน.