มหกรรมกีฬาโอลิมปิกเกมส์ ฤดูร้อน ครั้งที่ 32 “โตเกียวเกมส์ 2020” จะเปิดฉากชิงชัยกันระหว่างวันที่ 23 ก.ค.-8 ส.ค.นี้ ที่กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น ภายใต้เครื่องหมายคำถามตัวเบ้อเร่อ ที่ดังก้องอยู่ในหูของคนทั้งโลกว่า “นักกีฬา” และผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมด จะปลอดภัยจากไวรัสโควิด-19 มากน้อยเพียงใด

แต่ในเมื่อเจ้าภาพ ญี่ปุ่น และคณะกรรมการโอลิมปิกสากล (ไอโอซี) กล้าที่จะ “เตี้ยอุ้มค่อม” ตัดสินใจเดินหน้าจัดโอลิมปิกเกมส์ 2020 ต่อ ภายใต้มาตรการคุมเข้ม พร้อมวาง “กฎเหล็ก” ป้องกันอย่างเต็มที่ นั่นก็ย่อมเป็นหน้าที่ของเหล่านักกีฬา ที่จะต้องเตรียมความพร้อมของตัวเอง เพื่อไปไล่ล่าความสำเร็จกลับมาให้ได้

“เดลินิวส์” เอง ก็ไม่พลาดที่จะส่งทีมข่าว ประกอบด้วย “คม ท่าดี” นฤเบศวร์ ถนิมพาสน์ นักข่าวรุ่นเก๋า กับ “เชาว์ โฟโต้” เชาวลิต พุ่มโพธิ์ ตากล้องฝีมือดีไปเกาะติด “โตเกียวเกมส์” เช่นกัน ซึ่งการไปตะลุยโอลิมปิกเกมส์หนแรกของทั้งคู่นี้ ก็ต้องฝากคำขอบคุณตัวโตๆ ไปยังการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) มา ณ โอกาสนี้ด้วย จากนี้ก็จะมีเรื่องราวผ่านคอลัมน์ “เดลินิวส์ เชียร์ไทย” มาฝากแฟนกีฬาสีบานเย็น ไปจนจบการแข่งขันเลยทีเดียว

สำหรับ “โตเกียวเกมส์” ครั้งนี้ “ทัพนักกีฬา” คว้าสิทธิ์ไปแข่งขันโอลิมปิกเกมส์ มาได้แล้ว 37 โควตา จำนวน 42 คน จาก 14 ชนิดกีฬา ได้แก่ ยิงปืน-ยิงเป้าบิน , ขี่ม้า, เทควันโด, จักรยาน, เรือใบ-วินด์เซิร์ฟ, มวยสากล, กรีฑา, เทเบิลเทนนิส, เรือแคนู, เรือกรรเชียง, กอล์ฟ, ยูโด, ว่ายน้ำ และแบดมินตัน

แน่นอนว่า “เดลินิวส์ เชียร์ไทย” จึงใครขอประเดิมด้วยกีฬาความเหรียญทองอันดับ 1 ของไทย อย่าง “เทควันโด” ที่มี “น้องเทนนิส” พาณิภัค วงศ์พัฒนกิจ จอมเตะหมายเลข 1 ของโลก รุ่น 49 กก.หญิง เป็นความหวังสูงสุด และ “โตเกียวเกมส์” ครั้งนี้ก็เป็นโอลิมปิกเกมส์ครั้งที่ 2 ของเธออีกด้วย

นับตั้งแต่ผิดหวังจากโอลิมปิกเกมส์ 2016 ที่บราซิล คว้าเพียงเหรียญทองแดงมาคล้องคอ “น้องเทนนิส” ก็กลับมามุ่งมั่นพัฒนาฝีมือของตัวเองจนก้าวขึ้นมาเป็นเบอร์ 1 ของโลก ทำสถิติกวาดเรียบ 18 แชมป์ จาก 21 รายการที่ลงแข่ง ก้าวสู่ตำแหน่งแชมป์โลก 2 สมัย ที่สำคัญนับตั้งแต่ปี 2019 พาณิภัค ยังไม่เคยพลาดท่าปราชัยให้กับใครอีกเลย

เรียกได้ว่าคู่แข่งเกือบทุกคนในรุ่นนี้ เธอจัดการตบมาหมดแล้ว อย่าง หวู จิง หยู เจ้าของเหรียญทอง โอลิมปิกเกมส์ 2 สมัย จากจีน ที่เคยฝากคราบน้ำตาให้ก็ไม่มีเว้น ล่าสุด เจอกันรอบชิงชนะเลิศ ในศึกเทควันโดโลก 2019 ที่ประเทศอังกฤษ ก็โดน “น้องเทนนิส” เอาคืนทั้งต้นทั้งดอก ไล่เตะกระเจิงมาแล้ว จึงไม่แปลกที่จอมเตะสาวจากเมืองสุราษฎร์ธานี คนนี้ จะเป็นความหวังเหรียญทองของคนไทยทั้งชาติ

อีกคนคือ “จูเนียร์” รามณรงค์ เสวกวิหารี จอมเตะหนุ่มรุ่น 58 กก.ชาย ที่คว้าตั๋วไปโอลิมปิกเกมส์ครั้งแรก ก่อนหน้านี้ สมาคมเทควันโดฯ มีความหนักใจไม่น้อยที่ต้องรักพี่เสียดายน้อง เลือกระหว่าง รามณรงค์ หรือ “เทม” เทวินทร์ หาญปราบ เจ้าของเหรียญเงิน “รีโอเกมส์” แต่สุดท้าย “จูเนียร์” คว้าชัยชนะในการประลองกัน คำถามข้อนี้จึงตกไปโดยปริยาย

จุดด้อยของจอมเตะหนุ่มรายนี้คือรูปร่างเสียเปรียบคู่แข่งเพราะว่าตัวเล็กกว่า แต่เรื่องของจิตใจ ที่ห้าวเป้งไม่กลัวหน้าไหนทั้งนั้น นั่นจึงเป็นจุดเด่นของ “จูเนียร์” อย่างแท้จริง

เทควันโด แข่งขันที่มาคุฮาริ เมสเสะ ฮอลล์ A เริ่มวันแรก 24 ก.ค. ซึ่ง กองเชียร์ชาวไทย จะได้ลุ้นเหรียญจาก “พาณิภัค & รามณรงค์” ในวันนั้นไปพร้อมๆ กัน และหากไม่เกิดเหตุการณ์ “ล็อกถล่ม” ขึ้นมา “น้องเทนนิส” จะหยิบเหรียญทองเหรียญประวัติศาสตร์กลับมาฝากพี่น้องคนไทย นอกจากนี้เรายังหวังเซอร์ไพรส์จากรามณรงค์ ให้คว้าเหรียญใดเหรียญหนึ่งได้อีกคนด้วย

“ศรีเชลียง”