สำนักข่าวเอเอฟพี รายงานจากกรุงวอชิงตัน สหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 3 ก.พ. ว่า การโจมตียูเอสเอด ถือเป็นการเผชิญหน้าครั้งใหม่ในความเคลื่อนไหวของทรัมป์ ซึ่งมอบอำนาจที่ไม่เคยมีมาก่อนให้กับมัสก์ ในการจัดการกับหน่วยงานของรัฐบาล และต่อต้านสิ่งที่ทั้งสองคนมองว่าเป็นการใช้จ่ายของทางการที่สิ้นเปลืองและเกินขอบเขต
“ยูเอสเอดเป็นองค์กรอาชญากรรม” มัสก์ ระบุบนแพลตฟอร์มเอ็กซ์ โดยตอบกลับคลิปวิดีโอที่กล่าวหาว่า ยูเอสเอดมีส่วนเกี่ยวข้องกับ “งานนอกกฎหมายของสำนักข่าวกรองกลาง (ซีไอเอ)” และ “การเซ็นเซอร์อินเทอร์เน็ต”
ในโพสต์ต่อมา มัสก์เน้นย้ำกับผู้ติดตาม 215 ล้านคน บนแพลตฟอร์มของเขาว่า ยูเอสเอดใช้ภาษีของประชาชน เป็นเงินทุนสนับสนุนการวิจัยอาวุธชีวภาพ รวมถึงโรคโควิด-19 ซึ่งคร่าชีวิตผู้คนหลายล้านราย อย่างไรก็ตาม มัสก์ไม่ได้ให้หลักฐาน และไม่ได้อธิบายรายละเอียดเกี่ยวกับข้อกล่าวหาข้างต้นแต่อย่างใด
ขณะที่ทรัมป์กล่าวว่า ยูเอสเอด ซึ่งเป็นหน่วยงานของรัฐบาลวอชิงตัน ที่มอบความช่วยเหลือ การพัฒนา และการบรรเทาทุกข์ด้านมนุษยธรรมในต่างประเทศ มูลค่า 42,800 ล้านบาทต่อปี (ราว 1.46 ล้านล้านบาท) ถูกบริหารโดย “คนบ้าหัวรุนแรง” ซึ่งเขากำลังพิจารณาถึงการจัดการกับคนกลุ่มนี้ และจะตัดสินใจเกี่ยวกับอนาคตของหน่วยงานเป็นลำดับถัดไป
อนึ่ง ทรัมป์ออกคำสั่งระงับความช่วยเหลือต่างประเทศทั้งหมดเป็นเวลา 3 เดือน ซึ่งในเวลาต่อมา เขายกเว้นความช่วยเหลือด้านอาหาร และความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม ให้ดำเนินต่อไปได้ กระนั้น เจ้าหน้าที่บรรเทาทุกข์กล่าวว่า ความไม่แน่นอนยังคงมีอยู่ และการให้ความสำคัญกับ “ความช่วยเหลือฉุกเฉิน” เป็นส่วนหนึ่งของแผนการที่กว้างขึ้น ซึ่งรัฐบาลวอชิงตันจะไม่ให้เงินทุนสนับสนุนอะไรอีก.
เครดิตภาพ : AFP
