สำนักข่าวเอเอฟพี รายงานจากกรุงวอชิงตัน สหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 6 ก.พ. ว่า หลังเผชิญกับกระแสวิพากษ์วิจารณ์จากชาวปาเลสไตน์ รัฐบาลประเทศอาหรับ และบรรดาผู้นำโลก นายมาร์โก รูบิโอ รมว.การต่างประเทศสหรัฐ กล่าวว่า การย้ายชาวกาซาออกจากดินแดนปาเลสไตน์นั้น “เป็นเพียงการชั่วคราว” ขณะที่ทำเนียบขาวยืนกรานว่า สหรัฐไม่มีความตั้งใจที่จะส่งทหารเข้าไป
แม้ทรัมป์เน้นย้ำว่า “ทุกคนชอบแผนการดังกล่าว” แต่เขาให้รายละเอียดเพียงเล็กน้อยว่า สหรัฐจะย้ายชาวปาเลสไตน์มากกว่า 2 ล้านคน ออกจากฉนวนกาซา หรือควบคุมดินแดนที่ได้รับความเสียหายอย่างหนักจากสงครามได้อย่างไร
US appears to backtrack as Trump Gaza plan sparks global outcry https://t.co/LCKqAnRBtd
— ST Foreign Desk (@STForeignDesk) February 5, 2025
ด้านรูบิโอกล่าวเพิ่มเติมว่า แนวคิดข้างต้น “ไม่มีเจตนามุ่งร้าย” พร้อมอธิบายว่า ข้อเสนอในการฟื้นฟูและรับผิดชอบการก่อสร้างใหม่ ถือเป็นความเคลื่อนไหวที่แสดงความมีน้ำใจ
ในเวลาต่อมา นางแคโรไลน์ ลีวิตต์ โฆษกทำเนียบขาว กล่าวว่า รัฐบาลวอชิงตันจะไม่ให้เงินทุนสำหรับการฟื้นฟูฉนวนกาซา โดยให้เหตุผลว่า การมีส่วนร่วมของสหรัฐ ไม่ได้หมายความว่าต้องดำเนินการโดยตรง หรือผู้เสียภาษีชาวอเมริกัน จะเป็นผู้ให้เงินสนับสนุนความพยายามนี้
อย่างไรก็ตาม นายอันโตนิโอ กูเตร์เรส เลขาธิการยูเอ็น และนายสเตฟาน ดูจาร์ริค โฆษกยูเอ็น กล่าวเตือนว่า ชาวปาเลสไตน์มีสิทธิที่จะใช้ชีวิตในฐานะมนุษย์ ภายในดินแดนของตนเอง ซึ่งการบังคับให้ผู้คนอพยพออกไป ถือเป็นการกวาดล้างชาติพันธุ์
ขณะเดียวกัน ผู้นำจากหลายประเทศ รวมถึงประธานาธิบดีมาห์มูด อับบาส ผู้นำปาเลสไตน์ ตลอดจนกลุ่มฮามาส และกลุ่มสิทธิมนุษยชน ต่างประณามแผนการของทรัมป์ โดยระบุว่า การบังคับให้ชาวปาเลสไตน์อพยพออกจากฉนวนกาซา เป็นสิ่งไม่สามารถยอมรับได้ และละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศอย่างร้ายแรง.
เครดิตภาพ : AFP