หมวกและหมอนปรับรูปทรงศีรษะเด็กอ่อนกลายเป็นสินค้ายอดนิยมตามเทรนด์ใหม่ล่าสุดของพ่อแม่ชาวจีน ผู้เชื่อว่าอุปกรณ์เหล่านี้จะช่วยปรับกะโหลกศีรษะของลูกในวัยทารกให้เป็นทรงกลม ป้องกันกะโหลกศีรษะแบน เพื่อให้ตรงตามค่านิยมเรื่องความสวยงามของคนจีนยุคใหม่

ในเว็บบอร์ดเสี่ยวหงซู ซึ่งเป็นเว็บไซต์อี-คอมเมิร์ซและโซเชียลมีเดียในลักษณะที่คล้ายคลึงกับอินสตาแกรมของจีน มีพ่อแม่ชาวจีนเป็นจำนวนมากเข้ามาพูดคุยเรื่องอุปกรณ์ช่วยปรับรูปทรงกะโหลกศีรษะของเด็กอ่อน เพราะชาวจีนยุคนี้มองว่ากะโหลกศีรษะทรงกลมนั้นดูดีกว่าทรงแบน

เนื่องจากกระดูกของเด็กทารกยังไม่คงตัว รูปทรงของศีรษะของเด็กเล็กจึงสามารถเปลี่ยนแปลงได้ก่อนโต พ่อแม่ชาวจีนจึงใช้ประโยชน์จากจุดนี้ โดยการสรรหาอุปกรณ์ต่าง ๆ ที่ช่วยปรับรูปทรงกะโหลกศีรษะเด็กอ่อนได้ มาช่วยทำให้ลูก ๆ ของตนมีกะโหลกศีรษะที่สวยงาม

คุณแม่ชาวจีนรายหนึ่งโพสต์ข้อความบนเว็บไซต์เสี่ยวหงซู เล่าเรื่องที่เธอนำลูกน้อยไปรับการปรับรูปทรงกะโหลกศีรษะทั้งที่คนที่บ้านไม่เห็นด้วย เธอเล่าว่าลูกสาวของเธอชอบนอนหงาย ต่อมาก็สังเกตเห็นว่าศีรษะของลูกดูแบนและบานออก เธอพยายามจับให้ลูกสาวนอนโดยหัวศีรษะไปด้านข้าง แต่ก็ยังแก้ไขรูปทรงศีรษะที่ดูแบนไม่ได้

พอลูกสาวเธออายุได้ 7 เดือน คุณแม่รายนี้ก็พาไปยังคลินิกใกล้บ้านเพื่อสั่งทำอุปกรณ์แก้ไขรูปทรงกะโหลกโดยเฉพาะ ซึ่งมีลักษณะคล้ายหมวกที่จะช่วยปรับแต่งกะโหลกศีรษะของเด็ก เมื่อมีคนแสดงความไม่เห็นด้วย คุณแม่ท่านนี้ก็แย้งว่าการสวมอุปกรณ์ดังกล่าวก็เหมือนการไปจัดฟัน เป็นการจัดอวัยวะของร่างกายให้อยู่ในท่าทางที่เหมาะสมและสวยงาม เธอกล่าวว่าตัวเองเป็นคนศีรษะแบน จึงเข้าใจความรู้สึกเจ็บปวดของสาว ๆ ศีรษะแบนทั้งหลาย

ในเว็บไซต์เถาเป่าและเว็บไซต์อี-คอมเมิร์ซอื่น ๆ ล้วนมีสินค้าในหมวดหมู่ “แก้ไขกะโหลกเด็กอ่อน” วางขายมากมาย เช่น หมอน หมวกและที่นอน ทีมงานของเถาเป่าอ้างว่าอุปกรณ์ในหมวดหมู่นี้ขายดีมากและขายได้เร็วมาก เพราะพ่อแม่ชาวจีนเชื่อว่ายิ่งเริ่มต้นปรับทรงกะโหลกให้ลูกได้เร็วเท่าไหร่ยิ่งดี ตัวอย่างสินค้าที่วางขายก็เช่น หมอนปรับทรงศีรษะจากเกาหลี ราคาประมาณ 306 หยวน (ราว 1,594 บาท) ซึ่งทำยอดขายได้ราว 200 ชิ้นต่อเดือน

ความนิยมศีรษะทรงกลมนี้เพิ่งกลายมาเป็นกระแสในจีน เมื่อหลายสิบปีก่อน คนจีนเชื่อว่าศีรษะทรงแบนและหน้าผากกว้างคือสัญลักษณ์ของคนโชคดี พ่อแม่บางคนถึงกับให้ลูกตัวเองนอนบนกองหนังสือหรือไม้กระดาน เพื่อทำให้กะโหลกแบน

อย่างไรก็ตาม ผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์กล่าวว่า ควรปล่อยให้เด็กทารกมีพัฒนาการทางร่างกายอย่างเป็นไปตามธรรมชาติ จะเป็นการดีที่สุด ถ้าหากเด็กทารกมีปัญหาหรือต้องรับการรักษาเกี่ยวกับการพัฒนากะโหลกศีรษะ พ่อแม่ก็ควรพาไปตรวจที่โรงพยาบาลเพื่อหาสาเหตุ ส่วนการปรับแก้ทรงกะโหลกเด็กเพื่อความสวยงามที่กำลังอยู่ในกระแสนิยม เป็นเพียงความกังวลเกินเหตุของพ่อแม่เท่านั้น

เด็กน้อยที่มีภาวะศีรษะแบน (Flat Head Syndrome) ซึ่งเป็นความผิดปกติของกะโหลกศีรษะ ต้องสวมหมวกแก้ไขรูปทรงของกะโหลกศีรษะที่ออกแบบมาโดยเฉพาะ

แหล่งข่าวอ้างอิง

https://www.scmp.com/news/people-culture/trending-china/article/3154152/new-fad-china-has-parents-putting-helmets-and

https://www.insider.com/chinese-parents-putting-molds-babies-heads-keep-skulls-round-2021-11

เครดิตภาพ : GETTY IMAGES