เมื่อวันที่ 12 มี.ค. ที่ กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม พล.ต.อ.ประจวบ วงศ์สุข รอง ผบ.ตร. พล.ต.ท.สรายุทธ สงวนโภคัย ผู้ช่วย ผบ.ตร. ในฐานะ รอง ผอ.ศอ.ปส.ตร.บช.ปส. พล.ต.ท.สันติ ชัยนิรามัย ผบช.ปส. พร้อมด้วย พล.ต.ต.สมบูรณ์ เทียนขาว พล.ต.ต.ออมสิน ตรารุ่งเรือง พล.ต.ต.พรศักดิ์ สุรสิทธิ์ พล.ต.ต.ธนรัชน์ สอนกล้า รอง ผบช.ปส. ผบก.ปส.1 – 4 ผบก.สกส. และ ผบก.ขส. ร่วมกับเจ้าหน้าที่ทหาร นบ.ยส.35 และ ป.ป.ส. โดย พ.อ.เศรษฐ์สรรค์ ศิริโสภณ ผู้ช่วยผู้อำนวยการศูนย์ประสานการปฏิบัติที่ 2 กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร สำนักงาน ป.ป.ส. ร่วมกันแถลงเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ร่วมปิดล้อมตรวจค้นในพื้นที่ และจับกุมเครือข่ายยาเสพติดรายสำคัญ 4 คดี จับกุมผู้ต้องหา 5 คน ตรวจยึดยาบ้ากว่า 1.4 ล้านเม็ด ยาไอซ์ 255 กิโลกรัม และ เฮโรอีน 56 กิโลกรัม

โดยคดีแรก บก.สกส.ไล่ล่าสกัดจับยึดยาบ้า 1.2 ล้านเม็ดจากเหนือสู่ใต้ ก่อนเกิดเหตุ เจ้าพนักงานตำรวจ กก.4 บก.สกส.บช.ปส. รับแจ้งมีกลุ่มบุคคล รับจ้างจากนายทุนภาคใต้ลักลอบลำเลียงยาเสพติดจากพื้นที่ภาคเหนือ ด้าน จ.เชียงราย จะนำมาส่งให้นายทุนในพื้นที่ภาคใต้ ใช้รถกระบะนิสสัน รุ่นนาวาร่า สีบรอนซ์เงิน ทะเบียน 1 ฒพ 96XX… กรุงเทพมหานครเป็นรถบรรทุกยา ใช้รถเก๋งโตโยต้ายารีส สีขาว ทะเบียน กฉ 84XX น่าน เป็นรถนำเส้นทาง ต่อมา เมื่อวันที่ 6 มี.ค.68 เวลาประมาณ 06.30 น. พบความเคลื่อนไหวของรถยนต์ทั้ง 2 คัน วิ่งอยู่ในพื้นที่ อ.บางสะพานน้อย จ.ประจวบคีรีขันธ์ ขาล่องใต้ ชุดสะกดรอยติดตาม พบรถยนต์ทั้ง 2 คัน ขับลักษณะ นำและตามกันมา ประสาน ตำรวจป้อมสี่แยกปฐมพร สกัดให้หยุด นำรถทั้ง 2 คันมา X-Ray โดยละเอียดที่ด่านตรวจยานพาหนะชุมพร พบของกลางซุกซ่อน บริเวณด้านข้างกระบะท้ายและยางอะไหล่รถ นำผู้ต้องหาพร้อมของกลาง ส่งพนักงานสอบสวนบช.ปส.ดำเนินคดี

คดีที่สองบก.ปส.3คดี ปิดล้อมไล่ล่า ยึดยาบ้า 200,000 เม็ด กลางป่าเชียงราย เมื่อวันที่ 4 มี.ค.68 เจ้าหน้าที่ กก.2 บก.ปส.3 ร่วมกับ นบ.นส.35 และสำนักงาน ป.ป.ส. ตรวจยึดยาบ้า 200,000 เม็ด สืบสวนทราบว่าเครือข่ายลักลอบลำเลียงยาเสพติดชาวเขาชาติพันธุ์ลู่ ลักลอบลำเลียงยาเสพติดจำนวนมากจากพื้นที่ชายแดน อ.แม่อาย จ.เชียงใหม่ เข้าสู่พื้นที่ จ.เชียงราย และจังหวัดใกล้เคียง เฝ้าระวัง กระทั่งวันที่ 4 มี.ค.68 พบความเคลื่อนไหวรถยนต์กลุ่มบุคคลในเครือข่ายขับมาทางอำเภอแม่สรวย จ.เชียงราย มุ่งหน้าเข้ามาในอำเภอเมืองเชียงราย กระทั่งมาถึงทางเข้าหมู่บ้านหนองเขียว ต.แม่กรณ์ อ.เมืองเชียงราย สกัดรถยนต์แต่คนขับรถยนต์ขับหลบหนีไปในหมู่บ้านบ้านหนองเขียว ก่อนจะขับเข้าไปหลบซ่อนอยู่บริเวณชายป่าหลังพุทธสถานแห่งหนึ่งใน ต.แม่กรณ์ อ.เมืองเชียงราย จ.เชียงราย จับกุมตรวจค้น พบรถยนต์กระบะ จอดอยู่แต่ไม่พบคนขับตรวจค้น พบยาบ้า 200,000 เม็ด ซุกซ่อนอยู่ภายในห้องโดยสาร นำของกลางส่งพนักงานสอบสวน บก.ปส.3 และจะขยายผลติดตามผู้ต้องหาที่หลบหนีต่อไป

คดีที่สาม บุกรวบเอเย่นต์คาบ้านพัก ยึดเฮโรอีน 56 กก. – ไอซ์ 19 กก. เมื่อวันที่ 9 มี.ค.68 เจ้าหน้าที่ กก.2 บก.ปส.3 ร่วมกับเจ้าหน้าที่ กก.3 บก.สกส, นบ.ยส.35 และสำนักงาน ป.ป.ส. ร่วมกันจับกุมผู้ต้อง 1 คน พร้อมของกลางเฮโรอีน 56 กิโลกรัม ยาไอซ์ 19 กิโลกรัม ภายในบริเวณบ้านไม่มีเลขที่ หมู่ 4 ต.สันทราย อ.เมืองเชียงราย จ.เชียงราย จากการสืบสวนติดตามเครือข่ายลำเลียงยาเสพติด จากพื้นที่ชายแดน อ.แม่อาย จ.เชียงใหม่ เข้าสู่พื้นที่ ต.แม่ยาว อ.เมืองเชียงราย จ.เชียงราย เฝ้าระวังพบความเคลื่อนไหวรถยนต์ กลุ่มบุคคลในเครือข่าย รถยนต์ฟอร์ด สีดำ ต้องสงสัย แล่นมาจากพื้นที่ที่คาดว่ามีการส่งมอบยาเสพติด มีรถยนต์คอยนำทางและคุ้มกัน ติดตามรถยนต์ฟอร์ด สีดำ พบเข้าไปจอดในบ้านที่เกิดเหตุ เข้าตรวจค้นพบชาย 1 คน ลงจากรถ และวิ่งหลบหนีเข้าไปภายในบ้าน ก่อนที่จะวิ่งออกด้านหลังบ้านหลบหนีไป และพบผู้ต้องหาพยายามปิดประตูรั้วหน้าบ้าน และพยายามวิ่งหลบหนีไปตามถนนด้านหน้าบ้านเพื่อหลบหนี แต่ติดตามจับกุมไว้ได้ นำผู้ต้องหาตรวจค้นรถยนต์ดังกล่าว พบเฮโรอีน 56 กิโลกรัม ซุกซ่อนภายในห้องโดยสาร และตรวจค้นภายในบ้าน พบไอซ์ 19 กิโลกรัม ซุกซ่อนรวมกันอยู่ภายในกระสอบพลาสติก หลากสี วางอยู่บนพื้นห้องครัว ส่งพนักงานสอบสวน บก.ปส.3 และจะขยายผล ผู้เกี่ยวข้องมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

และคดีที่สี่บก.ปส.4 สกัดจับรถสไลด์ ขนไอซ์ 236 กิโลฯ กลางสงขลา จากการสืบสวนทราบรถยนต์ มิตซูบิชิ สีดำ ทะเบียน 4ขภ 85XX กทม.จะขนยาเสพติด จากพื้นที่ภาคกลางลงสู่พื้นที่ภาคใต้ และจ้างรถสไลด์ให้บรรทุกรถยนต์คันดังกล่าวเพื่อบรรทุกมาส่งในพื้นที่ จ.สงขลา

ต่อมาพบรถยนต์สไลด์ ทะเบียน 3ตญ 30XX กทม.บรรทุกรถยนต์ทะเบียน 4ขภ 85XX กทม.ลงมา ตรวจสอบพบ ของกลางยาไอซ์ น้ำหนักประมาณ 236 กิโลกรัม อยู่ภายในรถยนต์หมายเลขทะเบียน 4ขภ 85XX กทม. ตรวจยึดของกลางส่งพนักงานสอบสวน กลุ่มงานสอบสวน บก.ปส.4 และขยายผลจับกุมผู้เกี่ยวข้องต่อไป

ด้าน พล.ต.อ.ประจวบ กล่าวว่า สำหรับการปราบปรามยาเสพติดของ บช.ปส. ตั้งแต่ 1 ต.ค.67 – ปัจจุบัน สามารถจับกุมขบวนการค้ายาเสพติดทุกคดีได้ 538 คดี ผู้ต้องหา 537 คน ของกลางยาเสพติด คือ ยาบ้า 141,297,325 เม็ด ยาไอซ์ 11,550 กก. เฮโรอีน 111 กก. คีตามึน 509 กก. และยาอี 575 เม็ด ยืดอายัดทรัพย์ผู้ค้ายาเสพติด 1,409,496,878 บาท

พล.ต.อ.ประจวบ เปิดเผยอีกว่าจากนโยบายของรัฐบาล โดยนายกรัฐมนตรี นางสาว แพทองธาร ชินวัตร แถลงต่อรัฐสภา วันที่ 12 ก.ย.67 ว่าปัญหายาเสพติดเป็นนโยบายเร่งด่วน ที่รัฐบาลให้ความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง มุ่งเน้นการแก้ไขปัญหายาเสพติดอย่างเด็ดขาด ครบวงจร ตัดต้นตอการผลิต และจำหน่าย ด้วยการร่วมมือกับประเทศเพื่อนบ้านเพื่อสกัดกั้นการลำเลียงยาเสพติด ปราบปราม และยึดทรัพย์ผู้ค้ารายสำคัญ การขับเคลื่อนนโยบายดังกล่าว พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม ประธานกรรมการติดตาม เร่งรัดการดำเนินงานป้องกัน ปราบปราม และแก้ไขปัญหายาเสพติด ได้มีคำสั่งที่ 5/2567 ลง 25 พ.ย.67 แต่งตั้งคณะอนุกรรมการป้องกัน ปราบปรามการพักคอยยาเสพติดในพื้นที่ตอนในและสกัดกั้นการลำเลียงยาเสพติดลงสู่พื้นที่ภาคใต้ เพื่อปราบปรามกลุ่มการค้ายาเสพติดที่ลักลอบนำยาเสพติดมาพักคอยในพื้นที่ตอนใน หรือลักลอบลำเลียงยาเสพติดลงไปพื้นที่ภาคใต้ โดยมีตนเป็นประธานอนุกรรมการ ฯ และ กำหนดแผนปฏิบัติการปราบปรามการพักคอยยาเสพติด ในพื้นที่ตอนใน

และสกัดกั้นการลำเลียง ยาเสพติดลงสู่พื้นที่ภาคใต้ พ.ศ. 2568 เริ่มดำเนินการตั้งแต่วันที่ 1 ก.พ.68 ถึงวันที่ 12 มี.ค.68 กองบัญชาการตำรวจนครบาล ตำรวจภูธรภาค 1 ตำรวจภูธรภาค 7 และกองบัญชาการตํารวจปราบปรามยาเสพติด ร่วมบูรณาการกับ เจ้าหน้าที่จากสำนักงาน ป.ป.ส. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมปฏิบัติการปิดล้อมตรวจค้น รวมเป้าหมายปิดล้อมตรวจค้น ทั้งสิ้น 363 เป้าหมาย ดังนี้ บช.น. 100 เป้าหมาย ตรวจค้น ตำรวจภูธร ภาค 1จำนวน 76 เป้าหมายตรวจค้น ตำรวจภูธร ภาค 7 จำนวน 169 เป้าหมายตรวจค้น บช.ปส.จำนวน 18 เป้าหมาย.