จากกรณีกลุ่มลูกศิษย์ “หลวงพ่อพัฒน์ ปุญญกาโม” หรือ พระราชมงคลวัชราจารย์ ที่ปรึกษาเจ้าคณะจังหวัดนครสวรรค์ เจ้าอาวาสวัดธารทหาร หรือ ห้วยด้วน ต.ธารทหาร อ.หนองบัว จ.นครสวรรค์ ยื่นเรื่องร้องเรียนถอดถอนผู้ดูแลของหลวงพ่อพัฒน์ ต่อกองบังคับการป้องกันและปราบปรามการทุจริต (บก.ปปป.) ราชเลขาธิการสำนักพระราชวังศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดนครสวรรค์ และสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ เนื่องจากมีคณะกรรมการฝ่ายฆราวาสบางราย แสดงพฤติกรรมไม่น่าไว้วางใจ ด้วยการนิมนต์หลวงพ่อพัฒน์ออกจากวัดไปประกอบศาสนกิจบ่อยๆ เดินทางไปไกล จนเป็นเหตุให้หมดสติขณะออกกิจนิมนต์ ต้องเข้ารักษาตัวที่ รพ.สินแพทย์ จ.กาญจนบุรี ทำให้สังคมและผู้ที่มีความเคารพศรัทธาในหลวงปู่พัฒน์ ทวงถามถึงการบริหารจัดการกิจนิมนต์และการดูแลสุขภาพ พร้อมเรียกร้องให้มีการตรวจสอบทรัพย์สินของผู้ที่ใกล้ชิดหลวงพ่อ ก่อนที่ทาง บก.ปปป.จะเข้าไปทำการตรวจสอบ ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น

อายัดเงินกว่า60ล.คนสนิท ‘หลวงพ่อพัฒน์’ เร่งสอบเส้นทางคลายปมสงสัยศิษย์

ความคืบหน้ากรณี ดังกล่าวเมื่อวันที่ 9 พ.ย. ที่ บก.ปปป. พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว ผบก.ปปป. เรียกผู้ที่เกี่ยวข่องจำนวน 6 ราย ซึ่งเป็นคณะกรรมการและไวยาวัจกรของวัดห้วยด้วน รวมทั้งพระลูกวัด มาสอบปากคำในประเด็นเรื่องการได้มาของเงินรายได้วัด โดยใช้เวลาสอบปากคำนานกว่า 7 ชม.

พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าวว่า สืบเนื่องจากก่อนหน้านี้ทาง บก.ปปป. ได้เข้าตรวจสอบพฤติกรรมของไวยาวัจกร คณะกรรมการและบุคคลใกล้ชิด ตามหนังสือร้องเรียน พร้อมทำความเข้าใจกับทางหลวงพ่อพัฒน์ถึงการทำงานของเจ้าหน้าที่ในการตรวจสอบ รวมทั้งได้ทำการตรวจยึดเอกสารหลักฐานโดยเฉพาะเอกสารการจัดสร้างวัตถุมงคลฃรายได้ของวัด และเงินบริจาค ซึ่งเบื้องต้นมีเงินอยู่ในบัญชีผู้ที่ถูกร้องเรียนกว่า 60 ล้านบาท และทรัพย์สินอื่นๆ หลายรายการ โดยในวันนี้ได้เรียกผู้ที่เกี่ยวข้องมาทำการสอบถามชี้แจงถึงการได้มาของเงินต้องสงสัย รวมทั้ง ให้ข้อมูลในประเด็นที่ทางพนักงานสอบสวนและชุดสืบสวนพบข้อมูลที่มีความเกี่ยวข้อง

ผบก.ปปป. กล่าวอีกว่า จากการสอบถามนานกว่า 7 ชม. เบื้องต้นทางคณะกรรมการและไวยาวัจกรของวัดห้วยด้วน ได้ให้ความร่วมมือในการให้ข้อมูลในประเด็นที่ชุดสอบสวนเกิดความสงสัยได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะประเด็นเกี่ยวกับเส้นทางการเงินและการได้มาของเงินต่างๆ ซึ่งตรงกับแนวทางการสืบสวนที่พบ หลังจากนี้ชุดสืบสวนจะนำข้อมูลที่ได้ไปทำการวิเคราะห์และตรวจสอบข้อเท็จจริงว่า ตรงตามหลักฐานที่มีหรือไม่ เพื่อให้เกิดความโปร่งใสและเป็นธรรม สามารถคลายข้อสงสัยให้บรรดาลูกศิษย์และประชาชนที่รอคำตอบให้กระจ่างชัดมากที่สุด.