“ทราย สก๊อต” หรือ สิรณัฐ สก๊อต กลายเป็นที่สนใจอย่างมากบนโซเชียลในช่วงที่ผ่านมา หลังเผยคลิปตักเตือนนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ พูดคำว่า “หนีห่าว” ที่แสดงพฤติกรรมเหยียดเชื้อชาติบนเรือท่องเที่ยวบริเวณทะเลภาคใต้ โดยทรายได้ตัดสินใจนำเรือกลับฝั่ง เพื่ออธิบายถึงความไม่เหมาะสมของพฤติกรรมนั้น พร้อมเขียนข้อความว่า “แม้เขาจะมาเที่ยวประเทศเรา แต่ไม่ได้หมายความว่าเขามีสิทธิเหยียดคนไทย”

ท่ามกลางกระแสชื่นชมและให้กำลังใจ ทรายได้โพสต์ข้อความประกาศยุติบทบาทในฐานะเจ้าหน้าที่กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช โดยระบุว่า เขายินดีเสียสละตำแหน่งเพื่อมีอิสระในการสะท้อนปัญหาทะเลภาคใต้ และจะยังคงเดินหน้ารณรงค์ในฐานะพลเมืองที่รักทะเลต่อไป

สำหรับ คำว่า “你好” (nǐ hǎo) หรือที่ออกเสียงในภาษาไทยว่า “หนี ห่าว” เป็นคำศัพท์พื้นฐานในภาษาจีนกลางที่แปลว่า “สวัสดี” เป็นคำทักทายที่สุภาพและใช้กันอย่างแพร่หลายในชีวิตประจำวันของชาวจีน เปรียบเสมือนคำว่า “Hello” หรือ “Hi” ในภาษาอังกฤษ

อย่างไรก็ตาม แม้จะเป็นคำทักทายที่เป็นมิตรและสุภาพในบริบททางวัฒนธรรมจีน แต่คำว่า “หนี ห่าว” กลับกลายเป็นประเด็นที่ละเอียดอ่อนและอาจถูกมองว่าเป็นการเหยียดเชื้อชาติได้ เมื่อถูกนำมาใช้โดยชาวต่างชาติ โดยเฉพาะชาวตะวันตก ในการทักทายคนเอเชียทุกคน โดยไม่คำนึงถึงเชื้อชาติหรือภูมิหลังทางวัฒนธรรมที่แตกต่างกัน

การใช้คำว่า “หนี ห่าว” กับคนเอเชียทุกคนอย่างไม่เจาะจง สะท้อนให้เห็นถึงการเหมารวม (stereotype) ที่ชาวตะวันตกบางส่วนมองว่า “คนเอเชีย” เป็นกลุ่มคนที่มีลักษณะเหมือนกัน หรือมาจากวัฒนธรรมเดียวกัน ซึ่งเป็นการลดทอนความหลากหลายทางเชื้อชาติ ภาษา และวัฒนธรรมที่แท้จริงของทวีปเอเชียที่กว้างใหญ่

ลองจินตนาการว่ามีคนที่ไม่ใช่คนไทย ทักทายคนไทยทุกคนด้วยคำว่า “ซาหวัดดีครับ/ค่ะ” ไม่ว่าจะเป็นคนญี่ปุ่น เกาหลี เวียดนาม หรือชาติอื่นๆ ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ย่อมสร้างความรู้สึกแปลกประหลาดและอาจถูกมองว่าเป็นการไม่ใส่ใจหรือไม่เคารพต่อความแตกต่างทางวัฒนธรรมได้

การเหมารวมทางเชื้อชาติ : การใช้ “หนี ห่าว” กับคนเอเชียทุกคนเป็นการเหมารวมว่าคนเอเชียทั้งหมดเป็นชาวจีน หรือพูดภาษาจีน ซึ่งเป็นการละเลยความหลากหลายทางเชื้อชาติและภาษาที่แท้จริง

การลดทอนความเป็นปัจเจก : การทักทายด้วยคำเดียวกับคนเอเชียทุกคนเป็นการลดทอนความเป็นปัจเจกและความแตกต่างเฉพาะตัวของแต่ละบุคคล

ประวัติศาสตร์ของการกดขี่ : ในอดีต มีการเหยียดเชื้อชาติและการเลือกปฏิบัติต่อคนเอเชียในหลายประเทศตะวันตก การใช้คำทักทายที่ไม่เจาะจงเช่นนี้ อาจถูกมองว่าเป็นการตอกย้ำภาพลักษณ์เหมารวมและการปฏิบัติที่ไม่เท่าเทียมในอดีต

ความไม่ใส่ใจและความไม่รู้ : การใช้ “หนี ห่าว” กับคนเอเชียทุกคนอาจแสดงถึงความไม่ใส่ใจหรือไม่พยายามทำความเข้าใจถึงความแตกต่างทางวัฒนธรรมของคนเอเชีย

ส่วนความรู้สึกไม่สบายใจ : คนเอเชียที่ถูกทักทายด้วย “หนี ห่าว” โดยที่ตนเองไม่ได้เป็นชาวจีนหรือไม่พูดภาษาจีน อาจรู้สึกไม่สบายใจ ถูกมองข้าม หรือรู้สึกว่าถูกเหมารวม

การตอกย้ำภาพลักษณ์ : การใช้คำทักทายที่ไม่ถูกต้อง อาจเป็นการตอกย้ำภาพลักษณ์เหมารวมเกี่ยวกับคนเอเชียในสายตาของชาวตะวันตก

การสร้างความเข้าใจผิด : อาจนำไปสู่ความเข้าใจผิดและการสื่อสารที่ไม่ราบรื่นระหว่างผู้คนจากต่างวัฒนธรรม

สิ่งสำคัญคือการตระหนักถึงความหลากหลายทางเชื้อชาติและวัฒนธรรมของคนเอเชีย และหลีกเลี่ยงการใช้คำทักทายภาษาใดภาษาหนึ่งกับคนเอเชียทุกคนโดยไม่เจาะจง หากไม่แน่ใจ ควรเริ่มต้นด้วยการทักทายที่เป็นสากล เช่น “Hello” หรือสอบถามถึงเชื้อชาติหรือภาษาที่พวกเขาใช้ด้วยความสุภาพ

การเรียนรู้และทำความเข้าใจเกี่ยวกับวัฒนธรรมที่แตกต่างกันเป็นสิ่งสำคัญในการสร้างสังคมที่เคารพซึ่งกันและกัน การหลีกเลี่ยงการเหมารวมและการแสดงความใส่ใจในความแตกต่างทางวัฒนธรรมเล็กๆ น้อยๆ อย่างการใช้คำทักทายที่เหมาะสม จะช่วยลดความเข้าใจผิดและสร้างความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างผู้คนจากหลากหลายภูมิหลังได้

ในขณะที่คำว่า “你好” (หนี ห่าว) เป็นคำทักทายที่สวยงามและมีความหมายที่ดีในภาษาจีนกลาง การนำไปใช้อย่างไม่ถูกต้องและไม่คำนึงถึงบริบท อาจกลายเป็นเครื่องมือที่ไม่ได้ตั้งใจในการสร้างความรู้สึกเชิงลบและตอกย้ำการเหมารวมทางเชื้อชาติได้ การตระหนักถึงความละเอียดอ่อนในประเด็นนี้จึงเป็นสิ่งสำคัญในการสื่อสารข้ามวัฒนธรรมอย่างมีประสิทธิภาพและสร้างสรรค์

ถนอมศรี จันทร์ทอง รายงาน