สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงอัมสเตอร์ดัม ประเทศเนเธอร์แลนด์ เมื่อวันที่ 13 พ.ย.ว่านายกรัฐมนตรีมาร์ค รุตต์ ประกาศมาตรการล็อกดาวน์บางส่วนเป็นเวลา 3 สัปดาห์ มีผลบังคับใช้ทันที ตั้งแต่วันที่ 13 พ.ย.นี้ โดย “สถานประกอบกิจการไม่จำเป็น” ต้องปิดให้บริการภายในเวลา 18.00 น. ตามเวลาท้องถิ่น ด้านร้านอาหาร คาเฟ่ ผับ และซูเปอร์มาร์เก็ต ต้องปิดให้บริการภายในเวลา 20.00 น. ตามเวลาท้องถิ่น แต่โรงเรียนยังเปิดได้ตามปกติ ภายใต้มาตรการควบคุมทางสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด
ขณะที่มาตรการควบคุมทางสังคมกลับมามีผลบังคับใช้อีกครั้ง ตั้งแต่สัปดาห์ที่แล้ว ไม่ว่าจะเป็น การเว้นระยะห่าง การสวมหน้ากากอนามัย และการแสดงหลักฐานยืนยันการฉีดวัคซีน นอกจากนี้ ภาครัฐขอความร่วมมือในบริษัทเอกชนปรับรูปแบบการทำงานเป็นการทำงานจากที่บ้านให้มากที่สุดอีกครั้ง การแข่งขันกีฬาทุกประเภทในสนาม ยังคงจัดได้ แต่ห้ามมีผู้ชม ส่วนโรงเรียนและโรงภาพยนตร์ยังคงเปิดได้ แต่ต้องมีมาตรการจัดการด้านสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด
ความเคลื่อนไหวดังกล่าวที่ทำให้เนเธอร์แลนด์เป็นประเทศแรกของทวีปยุโรป ซึ่งกลับมาล็อกดาวน์รับฤดูหนาวปีนี้ เกิดขึ้นหลังกระทรวงสาธารณสุขของเนเธอร์แลนด์ยืนยันผู้ป่วยโควิด-19 รายวัน มากกว่า 16,000 คน เป็นวันที่สองติดต่อกัน โดยสถิติเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมาอยู่ที่ 16,364 คน เป็นการยืนยันผู้ติดเชื้อรายวันมากที่สุด นับตั้งแต่เนเธอร์แลนด์เผชิญกับการแพร่ระบาดของโรค ที่คร่าชีวิตผู้คนในประเทศไปแล้ว 18,695 ราย จากสถิติผู้ป่วยสะสมมากกว่า 2.2 ล้านคน
ทั้งนี้ การที่สามารถฉีดวัคซีนครบครอบคลุมประชากรได้มากกว่า 85% รัฐบาลเนเธอร์แลนด์จึงตัดสินใจยุติมาตรการควบคุมทางสังคมทั้งหมด เมื่อเดือนก.ย.ที่ผ่านมา.
เครดิตภาพ : GETTY IMAGES