สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากเมืองเคปทาวน์ ประเทศแอฟริกาใต้ เมื่อวันที่ 3 ม.ค. เกี่ยวกับความคืบหน้า หลังเกิดเหตุเพลิงไหม้อาคารรัฐสภา ในเมืองเคปทาวน์ เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา


สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรของแอฟริกาใต้ เผยแพร่แถลงการณ์ ว่าห้องประชุมใหญ่ซึ่งก่อสร้างด้วยไม้ และถือเป็นหนึ่งในมรดกเก่าแก่ของชาติ ตั้งแต่ปี 2427 ได้รับความเสียหายราบเป็นหน้ากลอง รวมถึงส่วนที่เป็นหลังคาของห้องประชุมด้วย ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่สามารถดับไฟจุดใหญ่ที่สุดได้แล้ว แต่ยังคงเหลือไฟกลุ่มเล็กอีกในบางจุด เคราะห์ดีไม่มีผู้เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บ เนื่องจากเหตุการณ์เกิดขึ้นในช่วงวันหยุดยาวส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่

เจ้าหน้าที่ดับเพลิงของแอฟริกาใต้เร่งควบคุมสถานการณ์ ที่อาคารรัฐสภา ในเมืองเคปทาวน์


ด้านสำนักงานตำรวจเมืองเคปทาวน์ยืนยัน การจับกุมผู้ต้องสงสัยได้อย่างน้อยคนหนึ่งจากภายในอาคาร เป็นชายอายุ 51 ปี เบื้องต้นมีการตั้งข้อหาวางเพลิง บุกรุกสถานที่ราชการ และการโจรกรรม ส่วนผลการตรวจสอบสถานที่ในเบื้องต้น พบว่า ระบบสปริงเกอร์ดับเพลิงไม่ทำงาน


ขณะที่ ประธานาธิบดีไซริล รามาโฟซา ซึ่งลงพื้นที่ไปสังเกตการณ์การทำงานของเจ้าหน้าที่ กล่าวยกย่องความรวดเร็วและประสิทธิภาพของหน่วยผจญเพลิง และยอมรับว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น “เลวร้ายและน่าเศร้าสลดอย่างมาก” เนื่องจากอาคารแห่งนี้ถือได้ว่าเป็นหนึ่งในโบราณสถานของแอฟริกาใต้ แต่ยืนยันว่า การทำงานของรัฐสภาจะเดินหน้าต่อไป แม้ยังไม่มีฝ่ายใดให้รายละเอียดได้ว่า การประชุมในอนาคตจะเกิดขึ้นด้วยวิธีใด


ปัจจุบัน ศูนย์กลางการบริหารประเทศของแอฟริกาใต้ อยู่ที่กรุงพริทอเรีย แต่เมืองเคปทาวน์ยังคงเป็นสถานที่ตั้งของอาคารรัฐสภา ตั้งแต่ปี 2453 และเคยเกิดเพลิงไหม้ครั้งล่าสุด เมื่อเดือนมี.ค.ปีที่แล้ว เคราะห์ดีเกิดความเสียหายเพียงเล็กน้อยเท่านั้น.

เครดิตภาพ : AP