สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานจากกรุงวอชิงตัน สหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 21 พ.ค. ว่า รัฐมนตรีต่างประเทศของสหรัฐกล่าวต่อคณะกรรมาธิการวิเทศสัมพันธ์ของวุฒิสภา ว่าได้เพิกถอนวีซ่าจากชาวต่างชาติ ด้วยกฎหมายที่อนุญาตการเนรเทศผู้เกี่ยวข้องกับ “กิจกรรมที่ถือว่า ขัดต่อผลประโยชน์ของนโยบายต่างประเทศของสหรัฐ” โดยมีการเพิกถอนวีซ่าไปแล้วอย่างน้อย 300 ฉบับ จนถึงเดือน มี.ค. ที่ผ่านมา
รูบิโอย้ำว่า “จะดำเนินการมากกว่านี้” โดยจะเน้นเพิกถอนวีซ่าของผู้ที่มีเจตนาก่อกวนระบบการศึกษาระดับสูงของสหรัฐ
นายคริส ฟาน โฮลเลน วุฒิสมาชิกรัฐแมริแลนด์ สังกัดพรรคเดโมแครต กล่าวหารูบิโอว่า ละเมิดกฎหมายคุ้มครองตามรัฐธรรมนูญของสหรัฐ ทั้งเสรีภาพในการพูด และในกระบวนการทางกฎหมาย
NEW: @SecRubio doubles down and says he plans to revoke more student visas.
— Kassy Akiva (@KassyAkiva) May 20, 2025
"These kids pay money to go to school and they have to walk through a bunch of lunatics who are here on student visas." pic.twitter.com/8CILwzDs8h
รูบิโออ้างว่า เขาตั้งเป้าไปที่นักศึกษาที่เข้ามาในสหรัฐ เพื่อใช้มหาวิทยาลัยเป็นสถานที่เคลื่อนไหว ยึดครองห้องสมุด และพยายามเผาทำลายอาคาร แต่โฮลเลนโต้แย้ง ด้วยการหยิบยกกรณีของ น.ส.รูเมย์ซา ออซเติร์ก ซึ่งเป็นนักศึกษาปริญญาโทวัย 30 ปีชาวตุรกี ที่เขียนบทความวิจารณ์เกี่ยวกับจุดยืนของมหาวิทยาลัยในประเด็นฉนวนกาซา ซึ่งถูกตีพิมพ์ในหนังสือพิมพ์ของนักศึกษา
โฮลเลนระบุว่า หน่วยงานของรัฐบาลไม่พบความเชื่อมโยงใด ๆ ระหว่างออซเติร์กกับการก่อการร้าย รวมถึงคำกล่าวต่อต้านชาวยิว แต่ยังคงเพิกถอนวีซ่าของเธอ และส่งเธอไปคุมขังที่สถานกักกัน ในรัฐลุยเซียนา
หลังจากนั้น โฮลเลนโพสต์ตอบโต้รูบิโอบนเอ็กซ์ ว่าอดีตเพื่อนร่วมงานของเขาได้รับ “การผ่าสมองมากาแบบโลโบโทมี” (MAGA Lobotomy) ซึ่งเหน็บแนมการสนับสนุน “Make America Great Again” (ทำให้อเมริกากลับมายิ่งใหญ่อีกครั้ง) ซึ่งเป็นสโลแกนของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์
นอกจากนั้น รูบิโอยังสนับสนุนนโยบายการเนรเทศผู้อพยพจำนวนมาก ตามแนวทางของผู้นำสหรัฐ รวมถึงการบรรลุข้อตกลงกับเอลซัลวาดอร์ ในการส่งผู้อพยพไปคุมขังยังเรือนจำความมั่นคงสูง.
เครดิตภาพ : AFP