เมื่อวันที่ 23 พ.ค. น.ส.ชลธิชา แจ้งเร็ว สส.ปทุมธานี พรรคประชาชน โพสต์เฟซบุ๊กระบุว่า ดิฉันมีความยินดีที่จะแจ้งเกี่ยวกับการหารือระหว่างสมาชิก กมธ.การต่างประเทศ สภาผู้แทนราษฎรไทย กับนายซุน เว่ยตง รมช.การต่างประเทศจีน และนายห่าว ผิง รองประธานกมธ.การต่างประเทศ ของสภาประชาชนจีน เกี่ยวกับประเด็นสารพิษในแม่น้ำกก-สาย-โขง อันเป็นผลจากเหมืองแร่ของบริษัทจีนในประเทศเมียนมา เมื่อวานนี้ (22 พ.ค. 2568) ค่ะ
น.ส.ชลธิชา ระบุว่า ทั้ง สส.ฝ่ายค้านและรัฐบาล ใน กมธ.การต่างประเทศ ล้วนเห็นพ้องต้องกันค่ะว่า ปัญหาสารพิษในแม่น้ำกก-สาย-โขง เป็นเรื่องเร่งด่วนและสำคัญ ที่เราในฐานะผู้แทนของประชาชนคนไทย และสมาชิก กมธ.การต่างประเทศ สามารถร่วมกันเป็นกระบอกเสียง และใช้กลไกการต่างประเทศเข้ามามีบทบาทในการช่วยแก้ไขหรือบรรเทาปัญหาจากต้นเหตุสารพิษซึ่งคือการทำเหมืองแร่ได้ ประเด็นนี้จึงเป็นอีกประเด็นสำคัญที่ถูกหยิบยกขึ้นมาหารือกับทางการจีน นอกเหนือไปจากเรื่องการส่งเสริมความสัมพันธ์ไทย-จีนครบรอบ 50 ปี ส่งเสริมการค้า-การท่องเที่ยว ความร่วมมือในการบริหารจัดการปัญหาคอลเซ็นเตอร์ สถานการณ์ในเมียนมา อื่นๆ ตลอดจนเรื่องการกำกับดูแลผลกระทบของการลงทุนของจีนต่อสิ่งแวดล้อมในไทย ซึ่งดิฉันและเพื่อนๆ สมาชิก กมธ. ร่วมกันเสนอในการประชุม

“ในการหารือกับ รมช.การต่างประเทศจีน ดิฉัน และคุณวิสาระดี เตชะธีราวัฒน์ สส.เชียงราย รองประธาน กมธ.การต่างประเทศ, คุณณัฐพงษ์ พิพัฒน์ไชยศิริ สส.อุดรธานี กรรมาธิการฯ ซึ่งเป็นผู้แทนฯ จากพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบ ได้ร่วมกันแสดงความกังวล และขอให้รัฐบาลจีนช่วยตรวจสอบการลงทุนของบริษัทจีนที่ทำเหมืองแร่เหล่านี้ ตลอดจนกำกับดูแล เพื่อให้ยุติการสร้างผลกระทบต่อประชาชนที่อยู่ปลายสายน้ำ” น.ส.ชลธิชา ระบุ
น.ส.ชลธิชา ระบุต่อว่า รมช.การต่างประเทศจีน ได้รับทราบข้อมูลและจะกลับไปติดตามรายละเอียดปัญหาดังกล่าวเพิ่มเติม นอกจากนั้น ยังได้แสดงจุดยืนของจีน ในการจะทวงถามบริษัทจีนที่ไปลงทุนให้ยึดหลักธรรมาภิบาล ต้องปฏิบัติตามกฎหมายและรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม แม้จะเป็นการลงทุนนอกประเทศค่ะ ทางจีนได้กล่าวถึงความสำคัญและประโยชน์ของกรอบความร่วมมือแม่โขง-ล้านช้าง (Mekong-Lancang Cooperation :MLC) ที่สามารถใช้เป็นเวทีในการหารือประเด็นสิ่งแวดล้อมโดยเฉพาะคุณภาพน้ำได้ และทางการจีนให้คำมั่นที่จะทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุด เพื่อการอยู่ร่วมกันอย่างสันติและการพัฒนาที่ยั่งยืนในภูมิภาคของเรา
น.ส.ชลธิชา ระบุต่อว่า สำหรับการหารือกับรองประธาน กมธ.การต่างประเทศของสภาประชาชนจีนนั้น พวกเราได้รับคำขอบคุณที่หยิบยกประเด็นนี้ขึ้นมาเจรจากับจีนอย่างตรงไปตรงมา เพื่อหาทางแก้ปัญหาไขปัญหาร่วมกัน และดิฉันก็ยังได้ขอให้ทางสภาประชาชน ได้ช่วยพิจารณาถึงกฎเกณฑ์และนโยบายในการกำกับดูแลการลงทุนของจีนในต่างแดน ให้เป็นไปตามมาตรฐานและไม่ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและประชาชนมิตรประเทศ

“ดิฉันทราบดีว่า ปัญหาสารพิษแม่น้ำกก-สาย-โขง มีความซับซ้อน มีตัวละครหลายฝ่าย และไม่สามารถแก้ไขได้ง่ายดายจากเพียงการสนทนาเท่านั้น หากก็มองเห็นสัญญาณที่ดีของการทำงานร่วมกันของ สส.ไทยฝ่ายค้านและรัฐบาล และการยอมรับฟังและให้ความสำคัญของทางการจีน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การประชุมกับ รมช.การต่างประเทศจีน ที่ได้รับการขยายเวลาจาก 30 นาที เป็นร่วมชั่วโมง หลังจากที่พวกเราได้หยิบยกเรื่องนี้ขึ้นมาพูดคุย” น.ส.ชลธิชา ระบุ
น.ส.ชลธิชา ระบุอีกว่า ขอขอบคุณสถานทูตไทยประจำประเทศจีน ที่ได้ให้การสนับสนุนบทบาทหน้าที่ของตัวแทนประชาชนคนไทยในครั้งนี้ ดิฉันและเพื่อน สส. ทั้งในพรรคและต่างพรรค จะได้ช่วยกันติดตามผลการพูดคุยดังกล่าวว่าก่อให้เกิดผลในทางปฏิบัติในพื้นที่หรือไม่อย่างไรต่อไป.