“เอลดิอาโบล” ฟาบิโอ กวาร์ตาราโร ยอดนักบิดชาวฝรั่งเศส ของทีมมอนสเตอร์ อีเนอร์จี้ ยามาฮ่า โมโตจีพี ออกโรงแสดงความพอใจกับศักยภาพของรถแข่ง M1 ที่โชว์ความเร็วระดับท็อป ชี้เป็นรถแข่งที่ดีที่สุดในช่วง 3-4 ปีที่ผ่านมา หวังยกระดับต่อเนื่อง ในศึกโมโตจีพี ยอมรับผิดหวังที่ต้องรีไทร์ขณะเป็นผู้นำ บริติช กรังด์ปรีซ์ แต่ไม่ยอมแพ้ในการทำงานเพื่อพา ยามาฮ่า กลับสู่ความยิ่งใหญ่

การแข่งขันโมโตจีพี 2025 สนามที่ 7 รายการ “บริติช กรังด์ปรีซ์ 2025” ดวลความเร็วเมื่อคืนวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ที่ซิลเวอร์สโตน เซอร์กิต สหราชอาณาจักร และนับเป็นอีกครั้งที่ ยามาฮ่า เดินหน้ายกระดับความเร็วของรถแข่ง M1 โดยเฉพาะการคว้าโพลเป็นสนามที่ 3 ติดต่อกันของกวาร์ตาราโร

เกมรอบ “เมนเรซ” ต้องออกตัวครั้งที่ 2 หลังมีเหตุธงแดง กวาร์ตาราโร ทะยานขึ้นนำและทิ้งห่างคู่แข่งออกไปอย่างรวดเร็วตั้งแต่ต้นเรซ และนี่คือโอกาสคว้าชัยชนะกรังด์ปรีซ์ ครั้งแรกของ ยามาฮ่า ในรอบหลายปี ก่อนที่รถแข่งของนักบิดเฟรนช์ จะมีปัญหากับระบบ Rear Ride High Device ขณะเป็นผู้นำ จนต้องออกจากการแข่งขันอย่างน่าเสียดาย

กวาร์ตาราโร กล่าวว่า “มันคือเรซที่น่าทึ่งสำหรับเรา แต่โชคร้ายที่ต้องเจอปัญหาทางเทคนิคกับระบบ Rear Ride High Device ผมคิดว่าการแข่งขันของเราไปได้สวยเลยล่ะ ผมรู้ว่าต้องเค้นตรงไหน ต้องเบรกลึกตรงไหน เมื่อต้องคำนึงถึงลมในสนามระหว่างแข่ง ทุกอย่างอยู่ภายใต้ความควบคุมจนกระทั่งถึงรอบนั้น (ที่รถมีปัญหา)”

“ผมคิดว่าเราสามารถพอใจกับงานที่ทำได้ในวันนี้ นี่คือรถแข่งที่ดีที่สุดในรอบหลายปีที่ผ่านมา เรากำลังทำได้ดี ผมหวังว่าเราจะทำมันได้อีกครั้ง แม้ผมจะผิดหวังแต่ก็ไม่ยอมแพ้” กวาร์ตาราโร ทิ้งท้าย

สำหรับ พัฒนาการของรถแข่ง M1 จากการคว้าโพล 3 สนามติดต่อกัน แสดงให้เห็นถึงความคืบหน้าอย่างมากในแง่การค้นหาประสิทธิภาพ ก่อนที่ศึกโมโตจีพี 2025 สนามถัดไป จะมีขึ้นระหว่างวันที่ 6-8 มิ.ย. นี้ ที่ มอเตอร์แลนด์ อารากอน ประเทศสเปน ในรายการ “อารากอน กรังด์ปรีซ์ 2025”