สำนักข่าวเอเอฟพี รายงานจากนครนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 29 พ.ค. ว่า สถานการณ์ด้านมนุษยธรรมในฉนวนกาซา อยู่ในสภาพที่เลวร้าย หลังอิสราเอลขัดขวางความช่วยเหลือเป็นเวลานาน 2 เดือน โดยบรรดาผู้สันทัดกรณีด้านความมั่นคงทางอาหารกล่าวว่า ประชาชนสัดส่วน 20% ของฉนวนกาซา กำลังเผชิญกับภาวะอดอยาก

นายแดนนี ดานอน เอกอัครราชทูตอิสราเอลประจำยูเอ็น กล่าวกับคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ (ยูเอ็นเอสซี) ว่า ในขณะที่ยูเอ็นสร้างความตื่นตระหนก และออกประกาศที่ไม่สอดคล้องกับความเป็นจริง รัฐอิสราเอลก็อำนวยความสะดวกอย่างต่อเนื่อง ในการส่งมอบความช่วยเหลือเข้าสู่ฉนวนกาซา

อย่างไรก็ตาม การกระจายความช่วยเหลืออย่างวุ่นวายที่ศูนย์ของมูลนิธิมนุษยธรรมแห่งฉนวนกาซา (จีเอชเอฟ) ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 47 คน ซึ่งดานอนกล่าวโทษว่า กลุ่มฮามาสเป็นต้นเหตุของความวุ่นวาย จากการตั้งสิ่งกีดขวางบนถนนและด่านตรวจ เพื่อขัดขวางการเข้าถึงศูนย์กระจายความช่วยเหลือ พร้อมกับกล่าวหาว่า “ยูเอ็นพยายามปิดกั้นความช่วยเหลือ”

“ยูเอ็นกำลังใช้การข่มขู่ การคุกคาม และการตอบโต้ต่อองค์กรอิสระ (เอ็นจีโอ) ที่เลือกเข้าร่วมกลไกด้านมนุษยธรรมแบบใหม่” ดานอน กล่าวเพิ่มเติม

แม้ยูเอ็นปฏิเสธข้อกล่าวหาของดานอนที่ระบุว่า หน่วยงานถอดเอ็นจีโอเหล่านี้ออกจากฐานข้อมูลรายชื่อกลุ่มที่ทำงานในฉนวนกาซา แต่ยูเอ็นก็เน้นย้ำจุดยืนคัดค้านการประสานงานกับจีเอชเอฟ โดยให้เหตุผลว่า ยูเอ็นจะไม่มีส่วนร่วมในปฏิบัติการที่ไม่เป็นไปตามหลักการด้านมนุษยธรรมของหน่วยงาน.

เครดิตภาพ : AFP