เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 9 มิ.ย. น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและคณะ ออกเดินทางจากกองบินตำรวจ แขวงท่าแร้ง เขตบางเขน กรุงเทพฯ ไปยังจุดจอด ฮ. ลานมัน ก ไพศาลพืชผล ตำบลหนองฝ้าย อำเภอเลาขวัญ จังหวัดกาญจนบุรี จากนั้นเดินทางด้วยรถยนต์โตโยต้าอัลพาร์ดสีดำ ทะเบียนกท 888 กรุงเทพมหานคร เพื่อลงพื้นที่

โดยจุดแรกเวลา 10.35 น. ที่โครงการจัดหาน้ำบาดาลขนาดใหญ่แก้ปัญหาภัยแล้งอันเนื่องมาจากพระราชดำริ บ้านปากชัดหนองบัว ตำบลหนองฝ้าย อำเภอเลาขวัญ จังหวัดกาญจนบุรี นายกรัฐมนตรี เยี่ยมชมโครงการจัดหาน้ำบาดาลขนาดใหญ่ แก้ปัญหาภัยแล้งอันเนื่องมาจากพระราชดำริ โดยมี นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม นายสุรพงษ์ ปิยะโชติ รมช.คมนาคม นายจตุพร บุรุษพัฒน์​ ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และมี สส.กาญจนบุรี พรรคเพื่อไทย ให้การต้อนรับ ได้แก่ นายอัครนันท์ กัณณ์กิตตินันท์ เขต 1 นายชูศักดิ์ แม้นทิม เขต 2 นายศักดิ์ดา วิเชียรศิลป์ เขต 4 และนายพนม โพธิ์แก้ว เขต 5 

เมื่อมาถึง นายกฯ รับฟังรายงานสรุปโครงการจัดหาน้ำบาดาลขนาดใหญ่ แก้ปัญหาภัยแล้งอันเนื่องมาจากพระราชดำริ โครงการที่กรมทรัพยากรน้ำบาดาลดำเนินการ และโครงการที่กรมทรัพยากรน้ำบาดาลเสนอขอรับงบประมาณ 14,859.6695 ล้านบาท พร้อมดูเครื่องมือในการสำรวจและขุดเจาะแหล่งน้ำบาดาล ก่อนเดินดูกระบวนการผลิตน้ำ ตรวจดูความใสของน้ำที่ใช้ในการอุปโภคบริโภค พร้อมสอบถามถึงการกระจายน้ำให้ประชาชนใช้ และนายกฯ ยังได้ชิมน้ำดื่มที่ผ่านขั้นตอนการผลิต พร้อมระบุว่า “เหมือนดื่มน้ำขวดทั่วไป ไม่มีกลิ่นเลย ดื่มแล้วสดชื่น” ทั้งนี้ในจุดดังกล่าว ได้เปิดให้ประชาชนสามารถรับน้ำฟรีได้ ซึ่งระหว่างนั้นมีประชาชนนำแกลลอนน้ำมากรอกน้ำ นายกฯ จึงช่วยกรอกน้ำด้วย 

จากนั้นนายกฯ กล่าวกับประชาชนว่า วันนี้รู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่ง ที่ได้มาดูเรื่องของโครงการน้ำบาดาล และความจริงแล้วเรื่องโครงการนี้เป็นโครงการที่สามารถช่วยเหลือประชาชนได้อย่างมาก และจะเห็นได้ว่าสุดท้ายแล้วสามารถช่วยประชาชนได้เกือบ 1 แสนครอบครัวทำให้ประชาชนได้รับประโยชน์ และโครงการนี้เป็นโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริเล็งเห็นว่าน้ำเป็นปัจจัย 4 และเป็นปัจจัยสำคัญของชีวิตประชาชนทุกคน ทั้งนี้ เมื่อก่อนพื้นที่ดังกล่าว เคยเป็นพื้นที่น้ำไม่เพียงพอ เป็นพื้นที่แห้งแล้ง พอมีน้ำเข้ามาก็ช่วยลดต้นทุนให้สะดวกสบายขึ้น ทั้งช่วยลดต้นทุนของชีวิต ไม่ว่าจะเป็นต้นทุนในการซื้อน้ำของครัวเรือนต่างๆ หรือต้นทุนทางการเกษตร ถือว่าเป็นการช่วยเหลือประชาชนได้มากจริงๆ ในส่วนของงบกระตุ้นเศรษฐกิจ ที่เปลี่ยนมาช่วยเรื่องน้ำเยอะ เพราะสามารถช่วยในระยะยาวได้ในรอบของงบนี้ ซึ่งเป็นกลุ่มระยะสั้นก่อน แต่สามารถต่อยอดเป็นระยะกลางและระยะยาวต่อไป เป็นการวางรากฐานและพื้นฐานวางชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีให้กับประชาชนต่อไป

นายกฯ กล่าวต่อว่า เมื่อสักครู่เดินดูโครงการฯ ต้องขอชื่นชมเจ้าหน้าที่ทุกท่านที่มีส่วนร่วม เพราะเป็นงานที่ต้องใช้ความทุ่มเทมาก และมีการสอบถามเรื่องเครื่องมือที่อยากจะได้มากกว่านี้ เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับประชาชน ก็อยากให้มั่นใจว่ารัฐบาลเล็งเห็นความสำคัญในเรื่องของน้ำเป็นอย่างมาก เพราะฉะนั้นน้ำสามารถช่วยประชาชนได้ทุกกลุ่ม ไม่ว่าเราจะเป็นใครหรือตำแหน่งอะไร อยู่จังหวัดไหนก็ตามทุกคนต้องการน้ำใช้  ดังนั้นเรื่องนี้ถือเป็นเรื่องที่สำคัญ ดิฉันมั่นใจว่ารัฐบาลเล็งเห็นเรื่องนี้และพร้อมที่จะสนับสนุนให้ประชาชนมีน้ำกิน น้ำใช้ และน้ำทางการเกษตรอย่างทั่วถึง และต่อเนื่องเป็นระยะยาว ตอนเดินชมโครงการฯ ได้เห็นชาวบ้านมารับน้ำตรงนี้ไปใช้ ก็รู้สึกยินดีด้วยมากๆ และได้ลองดื่มน้ำรู้สึกว่าเป็นน้ำที่สดชื่น สะอาดไม่มีกลิ่น ไม่ได้เป็นน้ำก๊อกหรือน้ำประปา เป็นน้ำสะอาดสามารถดื่มได้สดชื่น อย่างไรก็ตาม หวังว่าโครงการนี้จะเป็นประโยชน์ต่อประชาชนมากขึ้นไปเรื่อยๆ และขอเน้นย้ำอีกครั้งว่ารัฐบาลให้การสนับสนุนโครงการนี้ เพื่อส่งไปอำเภอพื้นที่รอบข้างอื่นๆ ให้ได้ใช้ประโยชน์ร่วมกันด้วย 

นายกฯ ปลื้มโครงการน้ำบาดาลช่วยชาวบ้าน 1 แสนครอบครัว

“วันนี้ดีใจที่ได้เจอทุกคน ขอบคุณพี่น้องที่มารอต้อนรับ พอมาถึงยิ้มแย้มแจ่มใส ดีใจที่ได้มากาญจนบุรีอีกครั้ง และดีใจเจอทุกคน รอยยิ้มของทุกท่านคือกำลังใจของรัฐบาลในการทำงานต่อ และเป็นกำลังใจของดิฉันที่มาวันนี้ และได้เจอกับทุกด้วย” นายกฯ กล่าว

จากนั้นนายกฯ มอบบรรจุภัณฑ์ใส่น้ำ ให้ผู้ว่าราชการจังหวัดนำไปแจกจ่ายให้กับพี่น้องประชาชนต่อไป ก่อนนายกฯ ถ่ายภาพร่วมกับประชาชน ทั้งนี้ในจุดดังกล่าว ได้มีประชาชนมาถือป้ายข้อความให้กำลังใจนายกฯ เช่น นายกฯ เก่งสุดยอด ,นายกฯ มาเราดีใจ เป็นต้น 

ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ระหว่างลงพื้นที่จุดดังกล่าว ผู้สื่อข่าวได้ทักทายนายจตุพร ปลัดกระทรวงทรัพยากรฯ พร้อมกับกล่าวแซวนายจตุพร ว่า​ สวัสดีท่านหัวหน้าพรรคโอกาสใหม่ และมีข่าวว่าจะนั่งเก้าอี้ รมว.พลังงาน​ ทำให้นายจตุพร​ หัวเราะพร้อมกับลูบแขนผู้สื่อข่าว​ และตอบกลับว่า​ “ขนลุกเลย”