แถมยังมีกระบวนการดิสเครดิสกันเป็นขั้นเป็นตอนของคนใกล้ชิด “รมต.สมศักดิ์” เริ่มปล่อยแชทไลน์หลุด อ้างว่าเป็นกรุ๊ปไลน์แพทยสภา แล้วบรรดาหมอๆ ตั้งวงเมาท์ถึง “นายทักษิณ ชินวัตร” ทนฟังไม่ได้ ร้อนถึงต้องมีการร้องเรียนจริยธรรม และโหมไฟด้วยโฆษกกระทรวงสาธารณสุข ฝ่ายการเมือง ให้ข่าวตีขนาบหวังซัดคืนประเด็นด้าน “จริยธรรมแพทยสภา”
เดินเกมกันเป็นสเต็ป “สมศักดิ์” รับ-ส่งเรื่อง เช็คบิลทันที โดยทำหนังสือถึงแพทยสภา และผู้อำนวยการศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ ตรวจสอบ “จริยธรรมหมอตั้งวงนินทา” บอกผิดจริยธรรมร้ายแรง !
งานนี้ปลุกกระแสตีกลับ หรือเรียกว่า “ของเข้าตัว” ไปเต็มๆ หลังจากที่ก่อนหน้านี้ก็โดนซัดจนเซไป แต่ล่าสุดนี่ คนรู้ข่าวถึงขั้นร้อง “อห. : โอ้โห” แล้วเทียบกันชัดๆ ถึงมาตรฐานจริยธรรมในใจของนายสมศักดิ์ ในประเด็นที่มีการวีโต้บอกว่า “การออกใบรับรองแพทย์ล่วงหน้า การพูดไม่หมด การเขียนเอกสารแพทย์แพทย์ไม่เป็นความจริง” เหล่านี้ล้วนยกประโยชน์ให้ผู้ถูกร้อง

นั่นคือ เหตุผลที่นายสมศักดิ์ยกมาอ้างเพื่อทำการวีโต้มติแพทยสภา ซึ่งจริงๆ “ทีมข่าวเดลินิวส์” ได้มีการเปิดเผย เหตุผล การลงมติของแพทยสภาเอาไว้ สามารถอ่านได้ที่ https://www.dailynews.co.th/news/4763330/
อีกประเด็นที่มีการโจมตี ถอดความจากการเปิดเผยแชทหลุด อ้างบิ๊กแพทยสภา ร่วมวงนินทานายทักษิณ ว่า “ไม่เหมาะสมและมีอคติ เป็นการกระทำ ร้ายแรง” ซึ่งเทียบกับที่นายสมศักดิ์ ตั้งคนที่มีความใกล้ชิด และออกมาให้ข่าวผ่านสื่อไปในทางช่วยเหลือนายทักษิณ ร่วมเป็นคณะกรรมการมาช่วยดูมติแพทยสภา กลับบอกว่า “ความเห็นทางการเมืองเป็นเรื่องส่วนตัว”…นั่นแหละมาตรฐานจริยธรรมของนายสมศักดิ์
อย่างไรก็ตาม จากประเด็นทั้งหมดนี้ ร้อนแรงถึงขั้นปลุกวิชาชีพออกมา “เซฟแพทยสภา” ทั่วแผ่นดิน พร้อมกับขับไล่ “สมศักดิ์” พ้นตำแหน่งเจ้ากระทรวงหมอ เพราะการนั่งในตำแหน่งของนายสมศักดิ์ ไม่ได้เป็นไปเพื่อระบบสุขภาพของประเทศอย่างแท้จริง แต่มาเพื่อ “รับใช้นาย” หรือไม่

เพราะปริศนา “อาการวิกฤติ” เป็นประเด็นสำคัญ ซึ่งหากไม่จริงตามนี้ก็ไม่มีเหตุผลให้ “ทักษิณ” มีอภิสิทธิเหนือนักโทษคนอื่น ป่วยจริงแต่อาการคงที่ ตามศักยภาพรพ.ราชทัณฑ์ก็เอาอยู่ ฉะนั้นใครก็ตามที่รับรองให้คนป่วยไม่วิกฤติจริงๆ ก็หนาวๆ ร้อนๆ ไปตามๆ กัน เพราะเรื่องไม่จบแค่ที่แพทยสภาลงโทษ “จริยธรรมแพทย์” เท่านั้น แต่จะโยงไปทุกองค์กรที่มีคนไปร้องเรียนเกี่ยวกับขบวนการช่วยเหลือนักโทษไม่ต้องอยู่ในเรือนจำ ทั้งสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เรียกว่าล้มรัฐบาล และพรรคเพื่อไทยที่ “แพทองธาร ชินวัตร” อาจติดคุกกันระนาว
ถึงมีขบวนการดังที่กล่าว สุดท้ายก็ไปวัดกันในการประชุมวันที่ 12 มิ.ย.นี้ ว่าแพทยสภาจะมีมติ 2 ใน 3 ยืนยันมติเดิม หรือ จะรับวีโต้ของนายสมศักดิ์ ที่ขณะนี้เจ้าตัวร่ำๆ ขอเข้าร่วมประชุมในอีก 2 วันข้างหน้าด้วย ปากบอกไม่ได้ไปกดดัน แต่จะเข้าไป “ชี้แจงก่อนโหวต”
ท่าทีเหล่านี้บ่งบอกว่างานนี้แพ้ไม่ได้ เพราะถ้า “สมศักดิ์” แพ้ “นายใหญ่” ก็แพ้ ล้มทั้งกระดาน เสี่ยงเดินคอตกกลับเข้าคุก แถมลากบริวารตามไปด้วย แต่หากชนะในเกมกับแพทยสภาได้ นายใหญ่ก็ผงาดในวงการเมืองไทย ส่วนหน่วยงานต่างๆ ที่รับเรื่องร้องเรียนไว้ในมือก็อาจจะไม่ใช่เรื่องที่เครือข่ายทักษิณไม่ต้องกังวลมากนัก อย่างที่นายนรินท์พงศ์ จินาภักดิ์ นายกสมาคมทนายความแห่งประเทศไทย ระบุว่า “นายทักษิณ ชินวัตร” ไม่ผิด เพราะไม่ว่าจะเป็นอาการป่วย การส่งตัวออกนอกเรือนจำ ระยะเวลาอยู่นอกเรือนจำ ล้วนเป็น “ผู้อื่น” ที่ดำเนินการ
การเมืองนาทีนี้ ต้องจับตามอง แบบไม่กระพริบตา ว่าจะเป็นจุดพลิกของนายใหญ่หรือไม่.