นับเป็นอีกคนนึงที่ใช้ชีวิตแบบสุดมาก สำหรับ “พลอย หอวัง” ดาราดัง น้องสาวสุดที่รักของ “คริส หอวัง” ที่ล่าสุดขอเปิดใจผ่านรายการ PrimeCast จากช่องยูทูปที่ชื่อว่า Alive Dot โดยเธอได้เปิดใจเล่าถึงไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตจากตัวแม่สายปาร์ตี้ ดื่มวอดก้าเป็นขวด สู่สายเฮลท์ตี้รักสุขภาพ พร้อมเจาะลึกเรื่องราวการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญที่ทำให้ชีวิตแฮปปี้ขึ้นพร้อมเผยทริคการใช้ชีวิต มีแฟนเด็กทำให้ดูอ่อนเยาว์จริงไหม
โดย พลอย เผยว่า “นักร้องก็เคยเป็นมาแล้ว ตอนนี้ก็เป็น Youtuber ถามว่าชอบตัวเองตอนนี้ไหม ก็ชอบนะในงานที่ทำ ชอบในสิ่งที่ทำอยู่ตอนนี้ แต่จะบอกว่าเป็น Youtuber ไหมก็ไม่เชิง ซึ่งจะให้เรียกตัวเองว่าเป็นอะไรดี เป็น Influencer Entertainer และสิ่งที่เราคิดว่าทำให้เรามีชื่อเสียงเป็น พลอย หอวัง ทุกวันนี้ จริงๆ พลอยไม่รู้หรอกว่า พลอยอยู่ได้ถึงขนาดนี้เพราะว่าอะไร แต่คิดว่าเรา Honest กับตัวเรามากๆ แล้วก็เป็นตัวเองมาตั้งแต่ Day one เพราะฉะนั้นการที่เราเป็นแบบ Real ตั้งแต่วันแรกสิ่งที่เราชอบ สิ่งที่เราทำคนมันเห็น แล้วคนมันก็เลยชอบไลฟ์สไตล์ ชอบอะไรแบบนี้ มันก็เลยทำให้รู้สึกว่าอาจจะอยู่ได้นาน และอยู่ถึงตอนนี้มากกว่า
เราเคยมีช่วงที่รู้สึกว่าหลงทาง มีวิกฤติในชีวิต ว่าเราจะไปทางไหนดี คือคิดว่าน่าจะเป็นช่วงตอนเด็กๆ ที่ยังเป็นศิลปินอยู่ ทำเพลง ออกเทป ออกซีดี แล้วพอถึงจังหวะที่ต้องไปเรียนต่ออังกฤษ ก็เริ่มงงว่าจะเอายังไงดี ควรจะเรียนต่อไหม อยู่ที่อังกฤษเลยดีไหม หรือกลับมาทำงานในวงการบันเทิงเหมือนเดิม ตอนนั้นลองทำงานหลายอย่างมากจนเริ่มมีคนจำเราได้ ก็เลยได้โอกาสเป็นพิธีกรตามช่องต่างๆ อย่าง GMM แล้วก็ได้ไปเป็นดีเจที่คลื่นฮอตอยู่ช่วงนึง จากนั้นก็เริ่มค้นพบว่าเราชอบสัมภาษณ์คน ชอบคุยกับคน คนก็เริ่มเห็นเราจากตรงนั้นมากขึ้น แล้วก็ได้ทำอะไรหลายๆ อย่างต่อยอดจากตรงนั้นจนกลายเป็นงานที่ทำมาจนถึงทุกวันนี้
ถามถึงความรู้สึกที่มี “คริส หอวัง” เป็นพี่สาวคนโต ซึ่งเขาดังมาก ๆ เอาจริงๆ มันคนละสายมากๆ พี่คริสเริ่มจากถ่ายโฆษณาก่อนแล้วก็ค่อยมาเล่นหนัง ของพลอยเริ่มจากศิลปินก่อนแล้วหายไปพักหนึ่ง ค่อยกลับมาเป็นพิธีกร เพราะงั้นไม่ได้มีผลอะไรกับเราโดยตรง แต่จะมีการปรึกษากันมากกว่า สนิทกันและก็ด่ากันตลอดเวลา แต่มันคือพี่น้อง ใครมีพี่น้องจะเข้าใจว่าทะเลาะกันเป็นเรื่องธรรมดา ซัพพอร์ตกัน ถ้าพลอยรู้สึกว่าพี่คริสเจอปัญหาอะไร พลอยก็จะบอกเขาว่า ลองทำแบบนี้ดูไหม หรือถ้าพลอยมีปัญหา พี่คริสก็จะพูดตรงๆ เลยว่า ทำแบบนี้ไม่ได้นะ ต้องทำแบบนี้ ช่วยกันในแบบที่ติกัน สุดท้ายแล้วก็รักกัน รักแบบด่ากันตลอดเวลา สนุกมาก ไม่โกรธกัน เราหัวเราะใส่กัน แล้วพี่คริสก็รู้ว่าที่พลอยพูด เพราะหวังดีล้วน ๆ ไม่มีอะไรเลย”
ดาราดัง เผยต่อว่า “ส่วนเมื่อก่อนเป็นสายปาร์ตี้ โอ้โห เอาเป็นว่าเริ่มจิบแอลกอฮอล์ครั้งแรกก็น่าจะตอนวัยรุ่น ประมาณอายุ 18 ซึ่งจริงๆ ก่อนหน้านั้นก็มีแหละ แต่ไม่พูดละกัน เอาเป็นว่าเริ่มจริงจังก็ประมาณ 18 ตอนนั้นก็เริ่มรู้สึกอยากซ่า อยากเท่ อยากคูล ใครทำอะไรก็อยากทำตาม พอดื่มได้ก็เต็มที่เลย แล้วไปเรียนต่อที่อังกฤษก็ยิ่งหนักเข้าไปใหญ่ เพื่อนฝรั่งมีอะไรที่เราไม่เคยเจอมาก่อน อย่าง Day Drinking ตอนนั้นก็คืออะไรพอเห็นเค้าทำ ก็แบบ เอาสิ ได้สิ ฉันก็ทำได้ แล้วก็เละเลย คือกินเหล้าเก่งมากกินยาวเลยตั้งแต่ช่วงนั้นจนถึงช่วงอายุ 30 กว่าถึงเริ่มลดลง ตอนนี้ก็กินน้อยลง ไม่ได้จัดหนักแบบเมื่อก่อนแล้วค่ะ
ช่วงที่ดื่มหนักๆ ร่างกายหรือผิวพรรณ มีผลกระทบหนักมาก แต่ตอนนั้นไม่ค่อยรู้สึก เพราะยังเด็กอยู่ เราก็คิดว่าเอาเลย มาเหอะ แต่ที่เห็นชัดๆ คือ ผิวจะแห้งมาก จะดูบวมมาก เสียงก็แหบ เราก็จะรู้สึกว่าไม่ค่อยชอบตัวเองตอนนั้นเท่าไหร่ เพราะยังเด็กเราไปต่อได้ กินเหล้าถึงตีสาม เช้ามาแปดโมงไปเรียนต่อได้ ไม่ต้องนอนก็ไหว โคตรซ่า พอมองย้อนกลับไปแบบทำไม เราไม่เข้าใจตัวเองว่าจะอวดกันทำไมเรื่องนี้ อวดไปเพื่ออะไรแต่เพื่อนก็จะชอบนะ ฟีลแบบว่า กินต่ออย่าหยุด ทุกวันนี้ตอนนี้พักแล้ว พอเหอะ
หลังจากลดการดื่มก็ไม่ถึงกับเลิกแบบ 100% เรียกว่ากินแบบ Social Drinking มากกว่าคือกินเฉพาะเวลาออกงาน หรือไปเจอเพื่อนแค่นั้น แต่ว่ากินไม่ได้เยอะเหมือนแต่ก่อน เมื่อก่อนคือชอบมาก โดยเฉพาะวอดก้า ขวดใหญ่ๆ ก็กินคนเดียวได้ ชอบพวกเครื่องดื่มใสๆ มาก โซจูอะไรแบบนี้ก็ไหวหมด แต่พอเป็นพวกวิสกี้หรือแชมเปญ สีเหลืองหน่อยๆ คือไม่ไหวเลย แค่แก้วเดียวก็เมาแล้ว แต่ถ้าวอดก้าไปได้ยาวเลย ถามว่าเลิกดื่มไหม ก็ไม่ถึงกับเลิกสนิท แค่เลือกดื่มมากขึ้น ดื่มเฉพาะตอนที่มันควรดื่มจริงๆ เพราะรู้สึกว่าถ้ากินแล้วพัง เสียดายร่างกาย เสียดายพลังงานเรา เพราะอีกวันมันจะเยินมาก”
พลอย เล่าต่อว่า “สำหรับเรื่องดูแลสุขภาพภายในร่างกาย จริงๆ เรื่อง Drinking มันมีผลเยอะเหมือนกัน พอไม่ได้ดูแลตัวเอง ผิวก็จะแห้ง ตัวก็บวม แล้วผิวก็จะดูเหี่ยว หมอง เหมือนไม่มีพลังเลย ไม่รู้ทำไม แต่มันเป็นเองโดยธรรมชาติ สมัยก่อนก็ไม่ชอบออกกำลังกายด้วย เพราะรู้สึกว่าเสียเวลาไม่ชอบเหงื่อ ไม่ชอบความรู้สึกเหนียวตัว แล้วรู้สึกว่ามีอย่างอื่นที่อยากทำมากกว่า อยากไปเที่ยว อยากไปเล่นกับเพื่อนมากกว่า แต่จริงๆ แค่คาร์ดิโอวันละ 30 นาทีก็พอแล้ว เท่ากับเลื่อน IG แป๊บเดียวเองเราก็เลยเริ่มมองใหม่ว่าการออกกำลังกายมันช่วยให้เราดูดีขึ้น สุขภาพดีขึ้น
พลอยอิจฉาคนวัย 20 กว่า 30 กว่า ยุคนี้มากเพราะว่าใส่ใจเรื่อง Health Conscious เยอะขึ้นมาก แล้วมีกิจกรรมให้แบบทำเยอะมาก Wellness Activity สมัยก่อนมันไม่ค่อยฮิตทำให้รู้สึกว่าไม่อยากทำ คนที่ทำหรือออกกำลังกายคือคนแก่เราคิดแค่นี้เลย แล้วตอนโควิดพลอยไปเล่นเซิร์ฟสเกตเยอะมากมันได้เหงื่อแบบสนุกๆ เหมือนได้เบิร์นตอนนั้นรู้สึกฟิตมาก โดยที่มันแบบคาร์ดิโอของมันเองไม่ต้องวิ่งหรือเข้ายิม ทำให้รู้สึกว่ามันมี Activity อย่างอื่นที่เราทำแล้วมันสนุก ทำให้ไม่ค่อยอยากกินเหล้าแล้ว รู้สึกอยากออกกำลังกายแบบนี้
ส่วนเรื่องของความรัก ก็มีแฟนเด็กตลอดเลย เคยลองเดตกับคนอายุเยอะกว่าหรืออายุเท่ากัน รู้สึกว่าพลังงานมันดรอป เราเป็นคนไฮเปอร์ คิดเร็ว ทำเร็ว แต่เขาจะนิ่งกว่า เรารู้สึกว่าเขาช้ากว่าเราไปหมด จนบางทีทำให้เราดูช้าตามไปด้วย ไม่ชอบแบบนั้นเลย พอมาคบกับคนที่เด็กกว่า เช่น เด็กกว่าประมาณ 2 ปี ก็รู้สึกว่า เอเนอร์จี้มันพอดี เขายังเฟรช ยังสนุก ยังมีอะไรใหม่ๆ มาแชร์กับเรา ด้วยหน้าที่การงานของพลอยต้องเจอคนที่เด็กกว่าตลอดเวลา เขาจะมีอะไรมาอัปเดตให้ฟังตลอด ส่วนเราก็มีประสบการณ์ที่แชร์กับเขาได้ เราแชร์กับเขาก็เป็นเรื่องที่เราเคยผ่านมาแล้ว หรือว่าเรื่องที่เขาปรึกษากับเรา ก็ให้ข้อคิดเขาได้ บางทีพลอยยังแอบคิดเลยว่าหรือเราปัญญาอ่อนเองหรือเปล่า ทำไมคุยกับเด็กแล้วรู้เรื่อง
ปัจจุบันนี้คบกับคนที่อายุน้อยกว่าเรา 9 ปีค่ะ แต่มันแปลกมากตรงที่ว่าเอเนอร์จี้ของเขาเหมือนคนอายุเท่ากับเรา หมายถึงว่าการคิด การอ่าน บางทีโตกว่าพลอยด้วยซ้ำพอ เลยอยู่ด้วยกันแล้วมันพอดีสำหรับในตอนนี้ ซึ่งการที่เขาเข้ามา ถามว่าเปลี่ยนชีวิตยังไงบ้าง โห เปลี่ยนเลยเหรอ เปลี่ยนในด้านที่ดีขึ้นแล้วกัน เปลี่ยนในด้านที่เขาพาเราไปกินอะไรที่อร่อยๆ พาไปกินของดีๆ พาไปออกกำลังกาย ชอบเรื่อง Wellness มากขึ้น ก็คือเป็นอิทธิพลมาจากแฟนด้วย แต่บางทีเราก็ไม่ได้ไปตามเขานะ เพราะว่าบางทีอันนี้ยังไงเราก็ทำไม่เป็น เราก็อาจจะแบบไม่ได้เก่ง เช่น การยกเวท เขาก็จะให้เราลองไปเล่นอย่างอื่น
ถ้าวันไหนเราเครียด Burnout Depress มีวิธีจัดการตัวเองยังไง ก็สัตว์เลี้ยงคือช่วยได้ที่สุด เพราะสัตว์เลี้ยงไม่พูดกลับ มันแค่อยู่ข้างๆ เงียบๆ แต่รับรู้พลังงานเรานะ ถ้าเราหมดแรง เศร้า หรือเหนื่อย มันจะเดินเข้ามาหาเราเอง อยู่กับตัวเองนิ่งๆ แล้วค่อยๆ คิดแล้วมันจะดีขึ้น ถ้าไม่ดีขึ้นขอให้ปรึกษากับเพื่อน เพื่อนสำคัญมากนะคะ เพื่อนที่ไม่ได้อวยเราอย่างเดียว แต่เพื่อนที่ต้องด่าเราในวันที่เราผิด เพื่อนพลอยคืออะไรถูกก็พูดว่าถูก อันไหนผิดก็จะพูดว่าผิดบอกตรงๆ เพื่อนที่จริงใจ ด่าเราได้ ด่าด้วยความเอ็นดูและรักเรา”
ในด้านของสุขภาพ ด้าน พลอย ได้เล่าว่า “สำหรับสุขภาพใจ สุขภาพกาย ตอนนี้ให้ 90% ที่รู้สึกแฮปปี้กับชีวิต ไม่ว่าจะเป็นเรื่องหน้าที่การงาน คนที่ทำงานด้วย หรือคนรอบตัวทั้งหมดอีก 10% เผื่อๆ ไว้คือเราไม่อยากพูดคำว่า 100 เราพูด 100 จะดูเวอร์เดี๋ยวคนอิจฉา เรา 90 แล้วเผื่อไว้อีกสัก 10 เผื่อแบบคนรอเหยียบอยู่ ส่วนเทรนด์สุขภาพการดูแลตัวเองในทุกวันนี้ ช่วงนี้ก็ออกกำลังกายควบคู่กับทำกายภาพบำบัดด้วย คือ เหมือนร่างกาย Body Shape physio นิดหน่อย มี Pilates บ้างแต่ว่าทำไม่บ่อย
ตอนนี้กลับมาชอบแนวกายภาพมากกว่า เพราะว่ามันโฟกัสในบางส่วน สมมุติว่าถ้าไหล่เราไม่ดี เราก็จะโฟกัสตรงส่วนตรงนั้นแล้วไปออกกำลังกายในส่วนตรงนั้น ทำให้บอดี้ของเรามันดีขึ้น ไปยิมยกเวท รู้สึกว่าการยกเวทจริงๆ แล้วมันทำให้ตัวเราเล็กลง ความเชื่อผิดๆ คือการไปออกกำลังกายหรือไปยิมการยกเวทจะทำให้ตัวใหญ่เหมือนนักกล้าม ซึ่งเป็นไปไม่ได้ค่ะยากมากต้องออกกำลังกายแล้วกินเยอะมาก กินโปรตีนแบบเป็นบ้าเป็นบอถึงจะตัวใหญ่มาก บางทีที่เราเห็นในคลิปว่าคนเขายกเวทหนักๆ เขาไม่ได้ยกแบบนั้นตลอด เขายกเฉพาะตอนนั้น เพื่อ Boost กล้ามเนื้อเฉพาะจุดมากกว่า พลอยว่าการทำออกกำลังกายไปตามส่วนๆ เวิร์คมากสำหรับพลอย มีเทรนเนอร์ที่ให้เราปรึกษาได้ และที่รู้สึกว่าเวิร์คมากอีกอย่างคือการเดินคาร์ดิโอ 30 นาทีหรือ 45 นาที เดินขึ้นเขาคือแฮปปี้มาก เพราะว่าเราได้เล่นโทรศัพท์ได้ด้วย ลู่วิ่งไม่ได้แปลว่าต้องวิ่งเดินก็ได้
ถามว่ามองอนาคตของตัวเองไว้ถึงจุดไหน ตอนนี้ไม่ได้มองอนาคตว่าจะต้องดีไปกว่านี้ พลอยมองเป็น Week ดีกว่าจะเป็นยังไงบ้าง หรือว่าเก่งสุดคือภายในปีนี้จะทำอะไรบ้าง เราจะ Success เรื่องอะไรบ้าง ไปทิศทางไหน แล้วก็แฮงค์เอาท์กับสิ่งที่เราทำให้นานที่สุดเท่าที่จะทำได้ ส่วนอีก 10 ปีข้างหน้าเป็นยังไงก็ให้มันเป็นตามสเต็ปของเรา เป็นยังไงก็ไม่รู้ รอดูอยู่เหมือนกัน”
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก paloyh
