สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานจากนครลอสแอนเจลิส สหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 13 มิ.ย. ว่า “กองกำลังพิทักษ์มาตุภูมิ” เป็นกองกำลังทหารกึ่งประจำการของสหรัฐ มีบทบาททั้งในการ ป้องกันประเทศ และ ให้ความช่วยเหลือภายในประเทศ เมื่อเกิดภาวะฉุกเฉิน เช่น ภัยพิบัติ หรือเหตุจลาจล อีกทั้งอาจถูกส่งไปประจำการในเขตสู้รบได้หากจำเป็น โดยเฉพาะในภาวะสงคราม
กองกำลังพิทักษ์มาตุภูมิแตกต่างจากกองกำลังอื่นของสหรัฐ ตรงที่ปฏิบัติหน้าที่ทั้งในระดับรัฐ และระดับรัฐบาลกลาง ทั้ง 50 รัฐ และเขตโคลัมเบีย หรือกรุงวอชิงตัน ตลอดจนเครือรัฐและดินแดนของสหรัฐ ไม่ว่าจะเป็น ปอร์โตริโก กวม และหมู่เกาะเวอร์จินของสหรัฐ ล้วนมีกองกำลังพิทักษ์มาตุภูมิประจำการ
ทั้งนี้ อำนาจควบคุม หรือสั่งการเป็นของผู้ว่าการรัฐหรือเขตปกครองแห่งนั้น ซึ่งจะสามารถเรียกใช้ และสั่งการเจ้าหน้าที่เหล่านี้ได้เมื่อจำเป็น แต่ในบางสถานการณ์ ก็อาจเป็นอำนาจของประธานาธิบดี ซึ่งคล้ายกับกรณีปัจจุบันที่นครลอสแอนเจลิส
ปัจจุบัน สหรัฐมีเจ้าหน้าที่กองกำลังพิทักษ์มาตุภูมิราว 433,000 นาย ภายใต้สำนักงานกองกำลังพิทักษ์มาตุภูมิ ขึ้นตรงกับกระทรวงกลาโหมสหรัฐ โดยแบ่งเป็นกองกำลังทางอากาศและทางบก ซึ่งเมื่อเทียบกับหน่วยทหารอื่นภายในกองทัพ ถือว่ากองกำลังพิทักษ์มาตุภูมิขนาดใหญ่เป็นรองเพียงกองทัพบกเท่านั้น
เจ้าหน้าที่กองกำลังพิทักษ์มาตุภูมิมักได้รับมอบหมายให้ลงพื้นที่ ในยามบ้านเมืองเผชิญกับภาวะฉุกเฉิน อาทิ ภัยธรรมชาติ เช่น พายุเฮอริเคน ไฟป่า และน้ำท่วม รวมไปถึงเหตุการณ์ฉุกเฉินด้าน ”ความไม่สงบของประชาชน” ซึ่งเป็นเหตุผลที่ทรัมป์ใช้อ้างส่งทหารไปยังนครลอสแอนเจลิส รัฐแคลิฟอร์เนีย
ย้อนกลับไปเมื่อปี 2563 ผู้ว่าการหลายรัฐสั่งให้กองกำลังพิทักษ์มาตุภูมิลงพื้นที่ เพื่อควบคุมการประท้วง “Black Lives Matter” และมีการบังคับใช้เคอร์ฟิวร่วมด้วย.
เครดิตภาพ : AFP