คุณหมอจองเซยอน แพทย์สาวแดนกิมจิชื่อดังที่มีผู้ติดตามกว่า 1 ล้านคน ได้ออกมาเผยถึงคุณประโยชน์ของ “เชอร์รี่” แบบจัดเต็มผ่านช่อง YouTube ของเธอ และสิ่งที่หมอจองเน้นย้ำเป็นพิเศษคือ…
ช่วยบรรเทาการอักเสบและโรคเกาต์
หมอจองบอกเลยว่า เชอร์รี่มีประสิทธิภาพเยี่ยมในการลดการอักเสบ และอาการของโรคเกาต์! สำหรับผู้ป่วยเกาต์ที่ต้องจำกัดอาหารหลายอย่าง เชอร์รี่ถือเป็นข้อยกเว้นที่แนะนำให้รับประทานได้สบายใจหายห่วง เพราะในเชอร์รี่อุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ และสารกลุ่มแอนโธไซยานิน ที่ช่วยลดการอักเสบในร่างกายได้อย่างน่าทึ่ง!
ปลอดภัยสำหรับคนเป็นเบาหวาน
ใครว่าคนเป็นเบาหวานกินผลไม้ไม่ได้? เชอร์รี่นี่แหละคือคำตอบ!
ดัชนีน้ำตาล (GI) ต่ำเว่อร์: เชอร์รี่มีค่า GI แค่ 22 เท่านั้น! (ค่า GI สูงคือ 70 ขึ้นไป)
ภาระน้ำตาล (GL) น้อยนิด: เมื่อคำนวณจากการกินหนึ่งครั้ง ค่า GL อยู่แค่ 2-3 บอกเลยว่าน้อยมาก!
นี่แหละคือเหตุผลที่เชอร์รี่เป็นมิตรกับผู้ป่วยเบาหวาน และคนที่ต้องการควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด กินได้อย่างสบายใจ ไม่ต้องกลัวน้ำตาลพุ่ง!
หลับลึก หลับสบาย เพราะเมลาโทนินจัดเต็ม!
เชอร์รี่เป็นแหล่งรวมของ “เมลาโทนิน” ฮอร์โมนแห่งการนอนหลับตามธรรมชาติ มีงานวิจัยยืนยันว่าแค่กินเชอร์รี่ ปริมาณเมลาโทนินในร่างกายก็เพิ่มขึ้น ส่งผลให้นอนหลับได้ดีขึ้น และหลับได้ยาวนานขึ้น นอกจากนี้ยังมี ทริปโตเฟน และ เซโรโทนิน ที่ช่วยเสริมการผลิตฮอร์โมนแห่งการนอนหลับโดยรวมอีกด้วย!
ข้อควรระวังก่อนอร่อยกับเชอร์รี่ แม้จะมีดีแค่ไหน แต่ก็มีข้อควรระวัง
ห้ามกลืนเมล็ดเด็ดขาด! ในเมล็ดเชอร์รี่มีสาร “อะมิกดาลิน” ซึ่งเป็นสารพิษในปริมาณเล็กน้อย การบริโภคในปริมาณมากอาจเป็นอันตรายต่อสุขภาพได้!
แนะนำให้ทานวันละ 10-15 ผล แต่ถ้าเป็นผู้ป่วยเบาหวาน เด็ก หรือคนน้ำหนักน้อยกว่าเกณฑ์ ควรจำกัดแค่ไม่เกิน 10 ผล
เลือกเชอร์รี่สดเท่านั้น! หลีกเลี่ยงเชอร์รี่แห้ง หรือเชอร์รี่กระป๋อง เพราะแปรรูปมาแล้ว น้ำตาลสูงกว่าเชอร์รี่สดมาก และอาจมีส่วนผสมที่ก่อให้เกิดการอักเสบได้
ที่มาและภาพ : insight korea, freepik