เมื่อเวลา 12.40 น. วันที่ 17 มิ.ย. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย กล่าวถึง กระแสข่าวการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) โดยมีการเสนอสูตร 2 แลก 1 ได้มีการคุยกับนายกรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 16 มิ.ย. ด้วยหรือไม่ว่า เมื่อสักครู่นายกฯ ไม่ได้ให้สัมภาษณ์หรือ นายกรัฐมนตรีบอกไม่มีแล้วใครจะบอกว่ามี  

เมื่อถามย้ำว่า นายกฯ บอกว่ารัฐมนตรีก็ต้องพร้อมทำงานทุกกระทรวง ถือเป็นนัยอะไรหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า รัฐมนตรีก็พร้อมทำงาน เป็นธรรมดา ถูกต้องแล้ว  

เมื่อถามว่า ดูเหมือนนายอนุทิน จะทวงเรื่องสัญญาใจ แต่นายกฯ บอกว่าตั้งแต่จับมือร่วมรัฐบาลก็ไม่มีเรื่องนี้ นายอนุทิน กล่าวว่า ไม่รู้ ไม่ได้ยิน เมื่อถามย้ำว่า วันที่พูดคุยกันวันแรกในการจับมือร่วมรัฐบาลมีสัญญาใจกันหรือไม่ว่าจะต้องเป็นไปตามโควตาเดิม นายอนุทิน กล่าวว่า อย่างพวกเราไม่ต้องมี เอ็มโอยู สมัยก่อนที่จะมารวมกันในขั้วนี้ ใช้เวลาเดือนกว่า กว่าจะทำเอ็มโอยูพรรคก้าวไกล ใช่หรือไม่ แต่ของพวกเราเป็นคนคุ้นเคย ตอนที่ท่านเชิญไปที่พรรคเพื่อไทย วันที่กินช็อกมินต์ เรื่องเอ็มโอยูไม่จำเป็น การไม่มีเอ็มโอยู แต่เป็นเรื่องความเข้าใจ ความเชื่อมั่นซึ่งกันและกันสำคัญกว่ามานั่งเขียน ถ้าไม่เป็นไปตามข้อตกลงหรืออะไร อีกหน่อยการตั้งรัฐบาลคงลำบาก ก็ต้องมานั่งเขียนสัญญากันอันนี้ยุ่งตายเลย เลือกตั้งเสร็จแทนที่จะเร่งตั้งรัฐบาล ต้องมานั่งดูเอ็มโอยู ถ้าเกิดเป็นแบบนี้ต้องเขียนเลยว่า อยู่กันยังไง ต้องสนับสนุนกันยังไง มีการเปลี่ยนแปลงได้หรือไม่ ซึ่งคิดว่า เราก็ไม่น่าจะทำแบบนั้น

เมื่อถามว่า การปรับครั้งนี้ไม่ทำตามข้อตกลงเดิมจะยุ่งหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ของตนไม่ยุ่งแน่นอน  เพราะตนบอกไปแล้ว 

เมื่อถามว่า พรรคภูมิใจไทยพร้อมเป็นฝ่ายค้านใช่หรือไม่ ถ้าไม่ได้กระทรวงมหาดไทย โดยอยากให้นายอนุทิน ย้ำล่าสุดในเวลานี้เลย นายอนุทิน กล่าวว่า ย้ำครับ ใช่ครับ ถามย้ำว่า ต้องรักษาเก้าอี้มหาดไทยไว้ให้ได้ นายอนุทิน กล่าวว่า ใช่ครับ เป็นไปตามข้อตกลงของการจัดตั้งรัฐบาล 

เมื่อถามว่า อยู่ในการเมืองมานานอ่านเกมออกหรือไม่ว่าขณะนี้พรรคเพื่อไทยไม่ให้กระทรวงมหาดไทยแน่ นายอนุทิน กล่าวว่า คิดว่าไม่มีเกมอะไร ภูมิใจไทยไม่ให้แน่ 

ผู้สื่อข่าวถามย้ำว่า พรรคเพื่อไทยไม่ให้แน่แล้วใช่หรือไม่ตอนนี้ นายอนุทิน กล่าวว่า ก็อยู่กับตนจะไม่ให้ได้อย่างไร ข้อตกลงยังเป็นข้อตกลงอยู่ ตนยังให้ความเคารพต่อนายกรัฐมนตรีอยู่แล้ว

เมื่อถามว่า ผู้นำทางจิตวิญญาณทั้งนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ และนายเนวิน ชิดชอบ ประธานสโมสรฟุตบอลบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด เห็นด้วยหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า เรื่องพรรคภูมิใจไทย การจัดการอยู่ที่ตน  

เมื่อถามต่อว่า ทำไมพรรคเพื่อไทยถึงอยากได้กระทรวงมหาดไทย นายอนุทิน กล่าวว่า กระทรวงไหน ไปไหน อยู่ที่ตน 

เมื่อถามว่า เหตุผลพรรคภูมิใจไทยยังอยากเอากระทรวงมหาดไทยไว้ ตามข้อตกลงคืออะไร นายอนุทิน กล่าวว่า มันเป็นไปตามข้อตกลง ข้อตกลงคือข้อตกลงกันแบบนี้ ถ้าทำแบบนี้ แต่ละพรรคการเมือง ก็จะกำกับดูแลกระทรวงนี้ กระทรวงนั้น เป็นไปตามข้อตกลง และยังไม่มีการกระทำใดๆ ที่เสียหาย ถ้าไปดูโพลมหิดล ก็ชัดเจนดี ว่ากระทรวงมหาดไทยก็ไม่ได้ทำความเสียหายใดๆ และตนก็ไม่ได้ทำความเสียหายใดๆ ให้กับรัฐบาล ตรงกันข้าม ตนก็สนับสนุนการทำงานของนายกรัฐมนตรีอย่างออกนอกหน้ามาโดยตลอด ให้กำลังใจ เชียร์ท่าน และพร้อมยืนอยู่เคียงข้างท่านทุกสถานการณ์ ตนทำทุกอย่างตามครรลองของคนที่ทำงานด้วยกันที่พึงจะกระทำ 

เมื่อถามว่า นายกฯ ได้แจ้งหัวแจ้งก้อย เรื่องของกระทรวงมหาดไทยบ้างหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า นายกฯ ไม่ได้แจ้งหัวแจ้งก้อย

เมื่อถามว่า ได้มีการประเมินหรือไม่ว่าพรรคภูมิใจไทย ไม่ได้ร่วมรัฐบาล เสียงในสภาจะเพียงพอหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ตนไม่ได้คิดตรงนั้น คิดแต่เรื่องข้อตกลง ความสัมพันธ์ที่ดี การร่วมงานที่ดี ตนเห็นท่านนายกฯ ชมตนตลอดเวลา ในการทำงาน หากมีบางเรื่องที่ล่าช้าไป ท่านก็โทรฯ มาขอให้เร่งรัด ตนก็เร่งรัด ตรงไหนที่ติดข้อกฎหมายจริงๆ ก็เรียนท่านไปว่าติดข้อกฎหมาย ท่านก็รับฟัง ท่านน่ารักจะตาย 

เมื่อถามว่า ถ้าพรรคภูมิใจไทยไปเป็นฝ่ายค้านรัฐบาลจะอยู่ครบวาระหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ตรงนี้ต้องให้ผู้สื่อข่าวคิดมากกว่า ตนคิดว่าอยู่ด้วยกันด้วยข้อตกลง อยู่ด้วยความเข้าใจดีกว่า ตนไม่รู้ว่าจริงๆ แล้ว นายกฯ ต้องการกระทรวงมหาดไทยหรือใครต้องการ เพราะคุยกับนายกฯ เมื่อวันที่ 16 มิ.ย. และมี นพ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช เลขาธิการนายกรัฐมนตรีอยู่ด้วย มีกันอยู่ 3 คนเท่านั้น ก็ไม่ได้มีเรื่องที่ออกมาเป็นข่าวเลย และตนเดินลงมาผู้สื่อข่าวได้สอบถาม ตนก็บอกว่าไม่มี พอข่าวออกไปว่าไม่มี ก็เหมือนมีคนเขียนข่าวว่าต้องมี ซึ่งคนคนนั้นนั้นไม่ได้อยู่ในที่หารือ เพราะมีกันอยู่แค่ 3 คน ถ้า นพ.พรหมินทร์ ไม่พูด ซึ่งตนเชื่อว่าท่านไม่พูด ท่านนายกฯ ไม่พูดแน่นอน ส่วนตนมาพูดให้ผู้สื่อข่าวฟังว่า ได้คุยอะไรกันในข้อสรุป เรื่องก็มีอยู่แค่นี้ 

เมื่อถามย้ำว่า เมื่อนายกฯ ไม่ต้องการแล้วใครต้องการ นายอนุทิน กล่าวว่า ก็ไม่รู้เหมือนกัน แต่มันก็ต้องมีความต้องการอะไรเกิดขึ้นแน่นอน ไม่งั้นทำไมถึงมาลงที่กระทรวงมหาดไทย กระทรวงนี้มันอะไรสำคัญอะไรกันนัก

เมื่อถามว่า ต้องการให้มีการผลักดันร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) การพนันและร่าง พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร โดยขับเคลื่อนได้ง่ายขึ้นหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า จริงๆ ตนควรจะโล่งอกด้วยซ้ำ ถ้าตนไม่ต้องมีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องนั้น และตนได้เรียนกับนายกรัฐมนตรีว่า เรื่องกฎหมายร่าง พ.ร.บ.การพนัน และร่าง พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร ซึ่งขณะนี้ในส่วนของร่าง พ.ร.บ.การพนัน กฤษฎีกายืนยันชัดเจนแล้วว่าแก้กฎกระทรวงไม่ได้ แต่ก็มีใครไม่รู้เข้าไปรายงานว่า แค่กระทรวงมหาดไทย แก้กฎกระทรวงก็เรียบร้อย ซึ่งมันแก้ไม่ได้กฤษฎีกายืนยัน ทำให้ตรงนี้ตกไป

ส่วนร่าง พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร ตนก็พูดอย่างชัดเจนได้ให้คำยืนยันกับนายกฯ อย่าบอกว่า พรรคภูมิใจไทยขวาง พรรคยืนยันที่จะสนับสนุนนโยบายของนายกฯ และพรรคร่วมรัฐบาลทุกพรรค ตราบใดที่ไม่ขัดต่อรัฐธรรมนูญ และศีลธรรมอันดี ที่สำคัญที่สุด ถ้าพรรคร่วมรัฐบาลทุกพรรคเห็นชอบด้วยพรรคภูมิใจไทยก็เห็นชอบด้วย แต่ที่ผ่านมา มีพรรคร่วมทำงานหลายพรรคยังไม่เห็นชอบ อย่างพรรคประชาชาติก็ออกแถลงการณ์ว่า ไม่เห็นชอบด้วยเพราะผิดหลักทางศาสนา มันก็ไม่ใช่เจตนารมณ์ และจริงๆ ศาสนาพุทธก็ไม่ได้เอาด้วยกับเรื่องการพนัน เพราะฉะนั้นตรงนี้ขอให้ชัดเจนก่อน เอาเรื่องหลักศาสนาอะไรออกไป และเอาเรื่องประโยชน์กับประชาชนและพรรคร่วมรัฐบาลทุกพรรคออกมายืนยัน ว่าเราไม่มีประเด็นแล้ว ว่ามีผู้อาวุโส 4 คน 5 คน ผู้อาวุโสพรรคใดพรรคหนึ่งไม่เห็นด้วยแล้วเป็นข้อยกเว้น ถ้าเห็นต้องเห็นด้วยกันหมด พรรคภูมิใจไทยก็ไม่มีทางเลือกอื่นก็ต้องเห็นด้วย แม้ในใจจะคิดยังไงก็แล้วแต่ ก็ต้องเห็นด้วยในความเป็นพรรคร่วมรัฐบาล ตนได้เรียนจุดยืนของพรรคภูมิใจไทยอย่างชัดเจนไปแล้ว นายกฯ ก็ทราบแล้ว 

เมื่อถามว่า ในการประชุมพรรคเมื่อวันที่ 16 มิ.ย. ได้มีการพูดอะไรกับสมาชิกพรรคบ้าง นายอนุทิน กล่าวว่า ได้สื่อสารว่าตอนนี้มีกระแสข่าวที่มีความพยายามจะดึงกระทรวงมหาดไทยแลกกับกระทรวงอื่นๆ ตนก็ไม่ทราบว่าจะแลกกับกระทรวงอะไร ถ้าเกิดเหตุการณ์แบบนั้น ก็ขออนุญาตให้ได้ฉันทานุมัติจากสมาชิกพรรคภูมิใจไทย ว่า ขอตัดสินใจ ขอให้ไว้วางใจในการตัดสินใจของตน ที่จะดำเนินการที่เป็นประโยชน์ที่สุดต่อประชาชน ซึ่งลูกพรรคบอกกับตน ว่า ณ จุดนี้มันเปลี่ยนไม่ได้ ถ้าเปลี่ยนก็กลายเป็นว่าเปลี่ยนพรรคภูมิใจไทย ก็โดนอยู่พรรคเดียว ทั้งที่เป็นพรรคที่สนับสนุนรัฐบาลอย่างสุดซอยทุกเรื่อง ไม่เคยมีข้อยกเว้น ไม่เคยมีลา ไปดูได้ตอนอภิปรายไว้วางใจ ถ้ายกสองมือให้นายกฯ ได้ก็คงยกไปแล้ว และเรื่องงบประมาณ พรรคภูมิใจไทยก็ยกมือให้ครบทุกคน และมีตั้งหลายพรรคที่ลาไปประกอบพิธีทางศาสนา ซึ่งเราก็เคารพว่าลาก็คือลา บางพรรคก็ขาดก็ป่วย แต่พรรคภูมิใจไทยครบ ตนจึงยืนยันว่า พรรคภูมิใจไทยเป็นพรรคที่สนับสนุนรัฐบาลอย่างชัดเจนที่สุด และตนยืนอยู่เคียงข้างนายกฯ ในทุกสถานการณ์ เวลาแถลงข่าวก็มีตนยืนอยู่ตลอด ส่วนวันนี้นายกฯ บอกว่าต่อไปจะให้เป็นหน้าที่ของโฆษกรัฐบาล ตนก็เลยไม่ได้ลงมา 

เมื่อถามว่า การยังคงอยู่ที่กระทรวงมหาดไทย ถือว่าเป็นเงื่อนไขเดียวที่ตอกฝาโรงเลยหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า “ณ ขณะนี้ นอกจากว่า จะมีทางใหม่รื้อใหม่หมด ทุบใหม่หมด คุยกัน ไม่แยกคุย แต่เป็นการคุยกันเลยว่าพรรคร่วมรัฐบาลชุดนี้เอาอย่างไร อันนั้นเราก็มีเหตุมีผล ผมก็ไม่ได้เป็นคนดื้ออะไร ถ้าไม่ได้ต้องมีเหตุมีผลคุยกับนายกฯ ก็มีเหตุมีผลอยู่แล้ว”