เมื่อวันที่ 18 มิ.ย. จากกรณีเจ้าหน้าที่ฝั่งประเทศกัมพูชาพบศพนายทศพร ใจเสงี่ยม อายุ 58 ปี เสียชีวิตที่ห้องเช่าหมายเลข 9 ในอาคารพักแบบ 2 ชั้นแห่งหนึ่งในฝั่งโอร์เสม็ด จ.อุดรมีชัย ในสภาพศพที่เริ่มเน่าเปื่อยคาดเสียชีวิตมาไม่น้อยกว่า 5 วัน ต่อมาผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปตรวจสอบตามบ้านเลขที่ที่ปรากฏตามบัตรประจำตัวประชาชนของนายทศพร จนทราบจากนายไก่ (นามสมมุติ) อายุ 55 ปี เจ้าของบ้านบอกว่า นายทศพรได้เคยขอเอาชื่อมาเข้าทะเบียนบ้านจริง แต่ไม่ได้เข้ามาพักนานกว่า 2 ปีแล้ว ไม่รู้ว่าไปอยู่ไหนและไม่เคยได้ติดต่อกัน
ความคืบหน้าล่าสุด นางเอื้อม (นามสมมุติ) อายุ 67 ปี อดีตข้าราชการบำนาญและเป็นคนสนิทของนายทศพรที่เสียชีวิต เล่าว่า รู้จักกับนายทศพรมาประมาณ 6 ปีที่บ่อนกาสิโนประเทศเพื่อนบ้านฝั่งจังหวัดสุรินทร์ ตนเองนั่งรถตู้ของบ่อนมารับจากบุรีรัมย์เข้าไปปล่อยเงินกู้และเล่นการพนัน ส่วนใหญ่จะอยู่ไม่นาน ส่วนนายทศพรที่เสียชีวิตไปอยู่ในบ่อนลักษณะปักหลัก
ผงะ!พบศพอดีตทนายความไทยดับปริศนา ในห้องพักฝั่งเขมรเงินสด7แสนหายไป

ตั้งแต่รู้จักกันมาได้เล่าประวัติให้กันฟัง ตนเป็นอดีตข้าราชการเกษียณอายุ ส่วนนายทศพร เคยเป็นข้าราชการตำแหน่งปลัด ลาออกราชการมาเป็นทนายอาสา มักจะเช่าพระจากฝั่งไทยไปปล่อยที่บ่อนได้เงินมาเอาไปเล่นการพนัน หลายครั้งนายทศพรบอกไม่มีเงินกินข้าว ตนต้องเอาข้าวสารจากบ้านไปให้แต่ถ้าฟลุกโชคดีมาก็จะเอาเงินไปปล่อยเงินกู้ให้กับคนไทยในบ่อนหมุนเวียนกันแบบนี้มาโดยตลอด
นางเอื้อม เล่าอีกว่า จริงๆ แล้วยังมี น.ส.วรรณ อายุประมาณ 50 ปีอีกคนที่เป็นคนสนิทและรู้จักนายทศพรมากกว่าตน น.ส.วรรณ จะรู้รายละเอียดเกี่ยวกับชีวิตของนายทศพร ทราบว่านายทศพร เป็นคนทางภาคกลาง แต่ตั้งแต่รู้จักกันมานายทศพรเป็นคนดีมีน้ำใจไม่เคยไปหาเรื่องใคร ส่วนการเสียชีวิตในครั้งนี้ส่วนตัวคิดไปได้หลายมุม ทั้งการฆ่าชิงทรัพย์ หรือโรคประจำตัว เพราะเท่าที่รู้นายทศพร ป่วยซึมเศร้าต้องกินยาตลอดเวลา ตนในฐานะเคยมีความรู้ด้านสาธารณสุขมาก่อนจึงเข้าไปเตือนและให้คำแนะนำ ครั้งหลังสุดแนะนำให้พักผ่อนเพราะถ้านายทศพรมีเงินจะนั่งเล่นทั้งวันทั้งคืน 2 วันติดกันคือ 48 ชม. ก็มีความเป็นไปได้อาจจะช็อกแล้วเสียชีวิตเองภายในห้องพัก