ได้เห็นความชัดเจนจากบรรดา พรรคการเมืองต่างๆ ที่เป็นตัวแปรสำคัญในการทำงานร่วมกับ “เพื่อไทย (พท.)” ในฐานะพรรคร่วมรัฐบาล หลังปรากฏ “คลิปหลุด” การสนทนาระหว่าง “น.ส.แพทองธาร ชินวัตร” นายกรัฐมนตรี กับ “สมเด็จฮุน เซน” ประธานวุฒิสภา เกี่ยวกับการแก้ปัญหา ข้อพิพาทชายแดนไทย-กัมพูชา ประกอบด้วย ประชาธิปัตย์ (ปชป.) ชาติไทยพัฒนา (ชทพ.) และ รวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ที่ยังเดินหน้าที่ทำงานต่อ ซึ่งแม้จะมีข่าว บางพรรคยื่นเงื่อนไข ให้เปลี่ยนตัวนายกฯ เพราะเห็นหัวหน้ารัฐบาลน่าจะหมดความชอบธรรม แต่ด้วยสภาพกลายเป็นพรรคอกแตกของ “รทสช.” ซึ่งแบ่งเป็น 2 ขั้วการเมือง กลุ่มหนึ่งนำโดย “นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค” รองนายกฯ และ รมว.พลังงาน โดยมี “นายเอกนัฏ พร้อมพันธ์ุ” รมว.อุตสาหกรรม และเลขาธิการพรรค รทสช. ส่วนอีกฝ่ายคือ “นายสุชาติ ชมกลิ่น” รมช.พาณิชย์ ในฐานะรองหัวหน้าพรรค โดยแต่ละฝ่ายมี สส.อยู่ในความครอบครอง กลุ่มละ 18 คน แต่ดูเหมือนฝ่ายหลังจะมีพลังมากกว่า เพราะได้ นายทุนพลังงาน มาแบ๊กอัพ จนมีข่าวว่า สส.ที่อยู่กับหัวหน้าพรรค รทสช. มีอยู่ไม่ถึง 10 คน ดังนั้นพลังที่จะกดดัน ที่ต้องการให้เปลี่ยนแปลงมีไม่พอ ทำได้แค่รักษาเก้าอี้ “รมว.พลังงาน” ไว้ ก็อาจยังยากกว่าด้วยซ้ำ

ส่วนพรรคร่วมรัฐบาลอื่นๆ อาจเริ่มมีหวัง หลัง พรรคภูมิใจไทย (ภท.) ถอนตัวออกไป ทำให้มี ตำแหน่งว่างลง ประกอบด้วย รองนายกฯ รมว.มหาดไทย รมว.ศึกษาธิการ รมว.แรงงาน รมว.การอุดมศึกษาฯ รมช.ศึกษาธิการ รมช.พาณิชย์ รมช.มหาดไทย 2 ตำแหน่ง และมีรายงานว่า พรรค พท.จะเอาโควตาของพรรค ภท.ไว้ คือเก้าอี้กระทรวงมหาดไทย (มท.1) โดยจะนำเก้าอี้ที่เหลือมาแบ่งให้ พรรคร่วมรัฐบาล ได้เก้าอี้รัฐมนตรีเพิ่มอีก 1 เก้าอี้ ส่วนเก้าอี้รัฐมนตรีอื่นๆ ยังรอการปรับเปลี่ยน เพิ่มเติมหลังจากนี้ ดังนั้นใครที่คิดว่า จะมีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้น ก็อาจจะผิดหวัง แต่ก็สุ่มเสี่ยงที่จะเกิดแรงกดดันนอกสภา ทั้ง ความเคลื่อนไหวนอกสภา และข้อร้องเรียนต่างๆ ที่จะถาโถมเข้าใส่ “น.ส.แพทองธาร” อันเนื่องมาจากคลิปหลุด ซึ่งบรรดาพรรคร่วมรัฐบาลอาจ ประเมินสถานการณ์ และยังรอดูปฏิกิริยาของฝ่ายต่อต้าน จะมีพลังมากน้อยแค่ไหน

ด้าน “นายภูมิธรรม เวชยชัย” รองนายกฯ และ รมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์ถึง ท่าทีพรรคร่วมรัฐบาล หลังมีการเผยแพร่ คลิปเสียงสนทนา ระหว่าง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกฯ และสมเด็จฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา ว่า ทุกพรรคยังให้การ สนับสนุน น.ส.แพทองธาร ต่อไป เมื่อถามถึงกรณีมีกระแสข่าวว่าพรรค รทสช.เสนอให้เปลี่ยนตัวนายกฯ เป็น นายชัยเกษม นิติสิริ แคนดิเดต นายกฯ พรรค พท. นายภูมิธรรม กล่าวว่า ไม่ได้ยินเช่นนั้น คิดว่าทุกอย่างจบแล้ว เมื่อถามขณะนี้ยังมีกระแสเรียกร้องให้ น.ส.แพทองธาร ลาออก นายภูมิธรรม กล่าวว่า คนที่เกี่ยวข้องได้คุยกับนายกฯ แล้ว ไม่มีปัญหาอะไร ทุกคนเข้าใจ เป็นชั้นเชิงต่อรองทางการทูต ถ้าดูจากคลิปไม่มีอะไรเลย เป็นเพียงการพูดคุย ยังไม่มีอะไรที่เข้าข่ายข้อหา แม่ทัพภาคที่ 2 ตนได้คุยแล้ว ไม่มีปัญหาอะไร

เมื่อถามว่าขณะนี้มีการ นัดชุมนุมใหญ่ ของกลุ่มคนที่ไม่พอใจเหตุการณ์ดังกล่าว นายภูมิธรรม กล่าวว่า เป็นสิทธิที่จะแสดงออกให้เป็นไป ตามกระบวนการกฎหมาย รัฐบาลยังทำหน้าที่ต่อได้ ด้วยความมั่นคงของประเทศตอนนี้ ทุกคนประเมินว่าเป็นภัยจากความมั่นคง คุกคามจากนอกประเทศ ที่พยายามให้ภายในอ่อนแอ และถ้าภายในอ่อนแอ รัฐบาลไม่มั่นคง ก็จะมีผลเสียหายต่อ ประโยชน์ประเทศ เมื่อถามว่า สมเด็จฮุน เซน จะถูกรัฐบาลพิจารณาขึ้นบัญชีดำ ในการ คบแบบมิตรที่ดี ต่อไปหรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า กระทรวงการต่างประเทศได้ทำหน้าที่ตาม ขั้นตอนจากเบาไปหาหนัก อยู่แล้ว เรายึดมั่น ในหลักการสากล ตรงนี้ไม่มีปัญหาอะไร

ขณะที่มีรายงานข่าวว่า ภายหลังการประชุม กรรมการบริหารพรรค (กก.บห.) ของพรรค รทสช. เมื่อวันที่ 19 มิ.ย.ที่ผ่านมา ซึ่งมีเฉพาะ บุคคลใกล้ชิด นายพีระพันธุ์ ในฐานะหัวหน้าพรรค รทสช. โดยไม่มีการเชิญบุคคลในกลุ่ม 18 ของ นายสุชาติ ชมกลิ่น รมช.พาณิชย์ ในฐานะรองหัวหน้าพรรค เข้าประชุมหารือถึงท่าทีในการร่วมรัฐบาล โดยที่ประชุมพรรค รทสช.มีมติให้นายพีระพันธุ์ ไปหารือกับนายกฯ เพื่อแก้ปัญหาที่เกิดขึ้น ซึ่ง รทสช. ยอมรับได้ หากมีการเปลี่ยนตัวนายกฯ ไปเป็นนายชัยเกษม นิติสิริ แคนดิเดตนายกฯ ในบัญชีของพรรค พท. ทั้งนี้ท่าทีของกลุ่ม 18 สส. นั้น ยังยืนยันพร้อม สนับสนุน น.ส.แพทองธาร ต่อไป โดยปฏิเสธการยอมรับมติ กก.บก.ที่มีเฉพาะคนของนายพีระพันธุ์
โดยมองว่า การแถลงของนายกฯ เมื่อวันที่ 19 มิ.ย.ที่ผ่านมา พร้อม ผบ.เหล่าทัพ ชี้แจงไปหมดทุกประเด็นแล้ว รัฐบาลและกองทัพมีความเป็นเอกภาพ พร้อม รับมือภัยคุกคาม ของชาติ และรักษาอธิปไตย จึงไม่มีเหตุผลอะไรให้ต้องลาออก “พอไม่มี พรรค ภท.ร่วมรัฐบาล มติ กก.บห.ของ รทสช. ต้องการเปลี่ยนตัวนายกฯ มาเป็น นายชัยเกษม ใครก็รู้ว่าติดข้อจำกัดเรื่องสุขภาพ รทสช.สายนายพีระพันธุ์ คงมองว่าเป็นโอกาสที่หัวหน้าพรรคตัวเองมีความเหมาะสมจะ ขึ้นนายกฯ แทน” แหล่งข่าวระบุ

ส่วน “นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ” สส.บัญชีรายชื่อ พรรค พท. ในฐานะ ประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล (วิปรัฐบาล) กล่าวถึงกรณีการลาออกของ นายภราดร ปริศนานันทกุล สส.อ่างทอง พรรค ภท. จากตำแหน่งรองประธานสภา ว่า ยังไม่ได้หารือในพรรค หรือพรรคร่วมรัฐบาล ต้องรอให้การ ปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) แล้วเสร็จ แต่ไม่เกี่ยวว่า ต้องเป็นโควตา พรรคร่วมรัฐบาลอันดับสอง เมื่อถามว่า หลังจากพรรค ภท.ถอนตัว กังวลต่อสถานะ ของเสียงข้างมากปริ่มน้ำหรือไม่ ประธานวิปรัฐบาล กล่าวยอมรับว่า เป็นงานหนักของประธานวิปรัฐบาลที่ต้องทำหน้าที่ ขอให้ สส.ทุกคน เข้าร่วมการประชุมสภาทุกนัด หาก สส.เขตคนใด ที่เป็นรัฐมนตรี ต้องเข้าร่วมประชุมทุกครั้งให้มาทำงานในสภา ส่วน สส.บัญชีรายชื่อ ที่ได้เป็นรัฐมนตรี ต้องลาออกจาก สส.
แต่ที่น่าสนใจคือความเห็นของ แกนนำพรรคกล้าธรรม (กธ.) พรรคร่วมรัฐบาล ซึ่งมีบทบาทในการ ดึง สส.ต่างพรรค เข้ามาร่วมงานการเมืองกับ กธ. ซึ่งถูกมองว่า ต้องการ ต่อรองทางการเมือง

“นายไผ่ ลิกค์” สส.กำแพงเพชร และเลขาธิการพรรค กธ. กล่าวถึงกรณีที่โพสต์ข้อความตัวเลข “263++” มีนัยอะไรหรือไม่ ว่า ถือเป็นตัวเลข ที่มีความมั่นใจ ในการจะร่วมเป็นรัฐบาลด้วยกัน ส่วนที่พรรค รทสช. มีมติขอให้ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกฯ ลาออกเพื่อ เปลี่ยนตัวนายกฯ นั้น ส่วนตัวได้คุยกับ สมาชิกพรรค รทสช. ก็ไม่มีเรื่องดังกล่าว มั่นใจว่าเสียงที่สนับสนุนรัฐบาลเกินพอ และจะมีเข้ามาเรื่อย ๆ ตอนนี้เรื่องชายแดนไทย-กัมพูชา เป็นปัญหาชายแดน ระดับประเทศ ส่วนผิดส่วนถูก เราต้องมองข้ามไปก่อน ตอนนี้เราต้องพาประเทศออกจากจุดนี้ สิ่งที่สำคัญที่สุดคือเรื่องงบประมาณ
เมื่อถามว่าหากงบประมาณปี 2569 ผ่าน มีการประเมิน เรื่องการยุบสภา หรือไม่ นายไผ่ ระบุว่า “ไม่มี อยู่ต่อ ส่วนจะอยู่ครบเทอม หรือไม่ อย่าเพิ่งคิดไปถึงขนาดนั้น อยู่ต่ออยู่แล้ว มั่นใจ ได้ยินข่าวดีมาเรื่อยๆ อาจจะไม่ใช่แค่ 260 แต่ อาจเป็น 280 ก็ได้ ใครจะไปรู้ เป็นไปตามที่ผมพูดตลอด ส่วนมาจากพรรคใหญ่หรือไม่ ผมไม่รู้” นายไผ่ กล่าว

ส่วน “พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ” สส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) นำ สส.และกก.บห.แถลงข่าวยืนยันว่า พรรคจะ ไม่เข้าร่วมรัฐบาล อย่างเด็ดขาด โดยจะเป็นพรรคฝ่ายค้านที่มีศักดิ์ศรีและมีคุณภาพเพื่อประชาชน ส่วนกรณีการอัดคลิปเสียงนายกฯ ทำให้ประเทศชาติขาดความเชื่อมั่น และ ขาดศรัทธา จากประชาชน ผู้นำประเทศทำให้ เกิดความเสียหาย กับประชาชน ต้องรับผิดชอบด้วยการลาออกจากตำแหน่งนายกฯ ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีที่มีภาพ นายสันติ พร้อมพัฒน์ รองหัวหน้าพรรค พปชร. ไปทานข้าวกับแกนนำพรรค ภท. พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า “ไม่มีใครไปไหนหรอก ไม่ต้องถาม เขาคุยกันธรรมดา กินข้าวกันเฉย ๆ” เมื่อถามต่อว่า มีการติดต่อจากพรรค พท.ให้เข้าร่วมรัฐบาลหรือไม่ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า “ก็ขอ แต่ผมไม่ร่วม จะไปเกี่ยวกันได้อย่างไร” เมื่อถามว่า หากมีการเปลี่ยนตัวนายกฯ จาก น.ส.แพทองธาร ชินวัตร เป็น นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรค รทสช. รับได้หรือไม่ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า “ก็บอกว่าไม่ร่วม”
ถ้าหากเป็นไปตามคำพูดของ “บิ๊กป้อม” ที่ออกมาเปิดเผยว่า “เพื่อไทย” ติดต่อให้ พรรค พปชร.เข้าร่วมรัฐบาล คงต้องบอกว่า พรรคแกนนำรัฐบาล ดิ้นหนัก เพราะเกรงด้วยเสียงหนุนของรัฐบาล ที่มีอยู่ 260 เสียงกว่าๆ อาจจะยังไม่มั่นคง
ทีมข่าวการเมือง