เมื่อวันที่ 21 พ.ย. โลกออนไลน์เกิดกระแสวิจารณ์อย่างหนัก ภายหลังจากที่ “หมอแล็บแพนด้า” ของ ทนพ.ภาคภูมิ เดชหัสดิน นักเทคนิคการแพทย์ชื่อดัง ได้โพสต์ข้อความตอบกลับ หลังมีกรณีหญิงสาวรายหนึ่ง ได้โพสต์ข้อความจนมีการแชร์ในโลกออนไลน์

โดยเธอระบุว่า “ฉีดไฟเซอร์เข็ม 2 แล้วประจำเดือนขาด 1 วัน เลยตรวจพบว่า 2 ขีด เป็นฮอร์โมนหรือท้องจริง ๆ คะ ปกติกินยาคุมอยู่ ตรวจเมื่อวันที่ 17/11/64 ซื้อที่ตรวจครรภ์ผ่าน shopee ขึ้น 2 ขีด 3 อันเลยค่ะ แต่จาง ๆ”

ทำให้ทางด้าน “หมอแล็บแพนด้า” ได้แสดงความเห็นกรณีดังกล่าวว่า “อันนี้ไม่น่าเป็นไปได้ครับ ฉีดวัคซีนแล้วท้องทั้งๆที่กินยาคุม ส่วนใหญ่จะกังวลเรื่องวัคซีนทำให้มีลูกยากซะมากกว่า”

ประเภทของวัคซีนมี 4 ชนิด

  1. วัคซีนชนิดสารพันธุกรรม ได้แก่ วัคซีนดีเอ็นเอ (DNA) หรือเอ็มอาร์เอ็นเอ (mRNA)
  2. วัคซีนชนิดใช้ไวรัสเป็นพาหะ (Recombinant viral vector vaccine)
  3. วัคซีนที่ทำจากโปรตีนส่วนหนึ่งของเชื้อ (Protein subunit vaccine)
  4. วัคซีนชนิดเชื้อตาย (Inactivated vaccine)

วัคซีนแต่ตัวจะมีวิธีที่จะจัดการไวรัสโควิด ในวิธีที่แตกต่างกันออกไป แต่สุดท้ายวัคซีนทุกตัวจะมีหน้าที่สร้างภูมิคุ้มกันต่อไวรัส ซึ่งจะไปจัดการกับตัวโปรตีนเฉพาะบางตัวที่ประกอบอยู่ในไวรัส พอพูดถึงโปรตีน ก็กลัวกันว่าวัคซีนจะเข้าไปจัดการกับ “syncytin-1” ซึ่งเป็นโปรตีนที่จำเป็นสำหรับการสร้างรก และมีส่วนช่วยในการตั้งครรภ์ที่สมบูรณ์

“โปรตีนตัวนี้ไม่ได้เป็นส่วนประกอบของไวรัสโควิดเลยครับ การฉีดวัคซีนแล้วจะทำให้มีลูกยากจึงไม่มีหลักฐานการทางแพทย์ว่าเป็นเรื่องจริง แล้วถ้ายิ่งฉีดวัคซีนจะไปส่งผลต่อยาคุม ทำให้ตั้งครรภ์ทั้งๆที่เราคุมกำเนิด อันนี้ก็ยังไม่มีหลักฐานทางวิชาการเหมือนกัน ถ้ามีโอกาสได้รับวัคซีนป้องกันโควิดก็ควรฉีดครับ”..

ขอบคุณภาพและข้อมูลจาก @หมอแล็บแพนด้า