สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงปักกิ่ง ประเทศจีน เมื่อวันที่ 27 พ.ย.ว่าเทศบาลกรุงปักกิ่งประกาศเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ปรับแก้เทศบัญญัติว่าด้วยระเบียบการลาคลอด ว่านับจากนี้เป็นต้นไป ลูกจ้างหญิงสามารถลาคลอดได้นานสูงสุด 158 วัน เพิ่มขึ้นแบบก้าวกระโดด จากเดิมซึ่งอยู่ที่เพียง 30 วัน ขณะที่มาตรการแบบเดียวกันของเทศบาลนครเซี่ยงไฮ้ มีผลบังคับใช้ก่อนแล้ว ตั้งแต่วันพฤหัสบดีที่ผ่านมา


ขณะที่ทางการมณฑลเจ้อเจียง หนึ่งในมณฑลใหญ่ทางตะวันออกของประเทศ เพิ่มวันลาคลอดให้กับมารดาซึ่งเพิ่งให้กำเนิดบุตรคนที่สอง หรือคนที่สาม เป็นนานสูงสุด 188 วัน ปัจจุบัน กฎหมายจีนกำหนดระยะเวลาของการลาคลอดของลูกจ้างหญิง นานสูงสุด 98 วัน โดยจะเป็นการหยุดที่ยังคงได้รับค่าตอบแทนตามปกติ


อย่างไรก็ตาม หลายฝ่ายยังคงตั้งคำถามว่า ควรขยายสิทธิแบบเดียวกันนี้ให้ครอบคลุมถึงผู้เป็นสามี ที่จะมีสถานะเป็นบิดา เมื่อภรรยาให้กำเนิดบุตรหรือไม่ เนื่องจากระเบียบการลาสำหรับคู่สมรสเพศชายในมณฑลเจ้อเจียง ยังคงอยู่ที่ 15 วัน และมีระยะเวลาเพียง 10 วัน สำหรับเทศบาลนครเซี่ยงไฮ้ ส่วนกรุงปักกิ่งยังคงอยู่ที่ 15 วัน แต่หากสามีตกลงกับภรรยา เพื่อขอใช้สิทธิวันลาบางส่วนจากฝ่ายหญิง ย่อมกระทำได้เช่นกัน


สำนักงานสถิติแห่งชาติของจีน รายงานอัตราการเกิดของประชากรในประเทศ ประจำปี 2563 อยู่ที่ 8.52 ต่อประชากร 1,000 คน เป็นอัตราต่ำที่สุด นับตั้งแต่เริ่มมีการบันทึกข้อมูลอย่างเป็นทางการ เมื่อปี 2521 และนับสถิติการจดทะเบียนสมรสของชาวจีนเมื่อปีที่แล้ว ปรากฏว่า ต่ำที่สุดในรอบ 17 ปี โดยอยู่ที่ 8.14 ล้านคู่


ย้อนกลับไปเมื่อเดือน พ.ค.ที่ผ่านมา สำนักงานสถิติแห่งชาติของจีนเผยแพร่ผลการสำรวจสำมะโนประชากร ที่จัดทำทุก 10 ปี และการรวบรวมข้อมูลครั้งล่าสุดนับเป็นครั้งที่ 7 จัดทำระหว่างเดือน พ.ย.-ธ.ค.ปีที่แล้ว ว่าจำนวนประชากรของจีนเมื่อสิ้นสุดปี 2563 มีจำนวนประมาณ 1,412 ล้านคน มากที่สุดในโลก เพิ่มขึ้นประมาณ 72 ล้านคน คิดเป็นประมาณ 0.53% เมื่อเทียบกับการสำรวจเมื่อ 1 ทศวรรษก่อนหน้า คือจนสิ้นสุดปี 2553 ซึ่งสถิติประชากร ณ เวลานั้น มีจำนวนประมาณ 1,340 ล้านคน


ขณะที่รัฐบาลปักกิ่งเดินหน้าสนับสนุนให้คู่สมรสมีบุตรร่วมกัน “สูงสุด 3 คน” อนึ่ง รัฐบาลปักกิ่งยกเลิกนโยบายลูกคนเดียว “เพิ่มเป็นการมีบุตร 2 คน” เมื่อปี 2558 หลังบังคับใช้อย่างเข้มงวดต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2522.

เครดิตภาพ : GETTY IMAGES