สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากเมืองโจฮันเนสเบิร์ก ประเทศแอฟริกาใต้ เมื่อวันที่ 1 ธ.ค. ว่า ศ.เอเดรียน พิวเรน รักษาการผู้อำนวยการสถาบันโรคติดต่อแห่งชาติ (เอ็นซีไอดี) ของแอฟริกาใต้ กล่าวเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา เกี่ยวกับเชื้อไวรัสโคโรนากลายพันธุ์ โอไมครอน ซึ่งพบครั้งแรกในแอฟริกาใต้ ว่าจนถึงปัจจุบัน บรรดานักวิจัยทั่วโลกยังคงมีความสงสัยว่า จะมีเชื้อไวรัสโคโรนาตัวใด “เหนือกว่า” เชื้อเดลตาหรือไม่ อย่างน้อยในมิติของการแพร่กระจาย ซึ่งตอนนี้เชื้อโอไมครอน “มีความเป็นไปได้มากที่สุด”


ทั้งนี้ หากผลการศึกษาบ่งชี้ได้อย่างเป็นทางการ ว่าเชื้อโอไมครอนสามารถแพร่กระจายได้เร็วกว่าเชื้อเดลตา นั่นเป็นสัญญาณของการเพิ่มจำนวนผู้ป่วยแบบก้าวกระโดด และอาจส่งผลกระทบเป็นลูกโซ่ไปถึงระบบสาธารณสุขอีกครั้ง


ศ.พิวเรนกล่าวต่อไปว่า องค์ความรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับเชื้อโอไมครอนน่าจะมีความกระจ่างมากขึ้น ภายในช่วงเวลา 4 สัปดาห์นี้ ว่าเชื้อไวรัสดังกล่าวสามารถ “หลบหลีก” ภูมิคุ้มกันที่กระตุ้นด้วยวัคซีน หรือภูมิคุ้มกันที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติ หลังการติดเชื้อสายพันธุ์อื่นหรือไม่ และเชื้อโอไมครอนอาจก่อให้เกิดอาการป่วย “รุนแรงกว่า” เชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์อื่นหรือไม่

อย่างไรก็ดี ในเบื้องต้นมีรายงานออกมาว่า ผู้ป่วยจากเชื้อโอไมครอนส่วนใหญ่ในแอฟริกาใต้ มีอาการ “เล็กน้อยถึงปานกลาง” หรืออาจไม่แสดงอาการใด และส่วนใหญ่เป็นกลุ่มคนหนุ่มสาว


ปัจจุบัน แอฟริกาใต้มีสถิติผู้ป่วยโควิด-19 สะสมเกือบ 3 ล้านคน และเสียชีวิตสะสมเกือบ 90,000 ราย เป็นสถิติสูงที่สุดในทวีปแอฟริกา อย่างไรก็ดี คงเหลือผู้ป่วยรักษาตัวอยู่อีกประมาณ 28,600 คน.

เครดิตภาพ : AP