เมื่อวันที่ 17 ม.ค. ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล พล.ต.ต.จิรสันต์ แก้วแสงเอก รอง ผบช.น. พล.ต.ต.สรเสริญ ใช้สถิตย์ ผบก.น.6 พ.ต.อ.มนัส รุ่งนาค ผกก.สน.พลับพลาไชย 1 พ.ต.ท.ธเนศ มีทอง รอง ผกก.สส. ร่วมกันแถลงผลการจับกุมนายวิเชียร อายุประมาณ 56 ปี พร้อมของกลาง ได้แก่ ไขควง (อุปกรณ์ใช้ก่อเหตุทุบกระจก) เสื้อผ้าที่สวมใส่ในวันก่อเหตุ ตามหมายจับศาลอาญากรุงเทพใต้ ในข้อหา “ลักทรัพย์ในเวลากลางคืน โดยทำอันตรายสิ่งกีดกั้นฯ โดยแปลงตัวหรือปลอมตัวเป็นผู้อื่นฯ”
สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 6 ม.ค. ที่ผ่านมา ผู้เสียหายได้เข้าแจ้งความต่อพนักงานสอบสวน สน.พลับพลาไชย 1 ว่ามีคนร้ายก่อเหตุทุบกระจกรถยนต์ โดยลักเอาทรัพย์สินภายในรถยนต์ซึ่งจอดอยู่บริเวณหน้าบ้านเลขที่ 100/42 ตรอกแม้นศรี แขวงคลองมหานาค เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย กรุงเทพฯ ได้แก่ โน้ตบุ๊ก ยี่ห้อเลอโนโว มูลค่า 25,000 บาท และแว่นตา ยี่ห้อ ออลแมนนี่ มูลค่า 12,000 บาท แล้วหลบหนีไป
พ.ต.ท.ธเนศ กล่าวว่า หลังจากรับแจ้งเหตุ เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน จึงได้ออกสืบสวนติดตามเร่งรัดจับกุมคนร้าย และจากการตรวจสอบกล้องวงจรปิด พบว่าคนร้ายพยายามอำพรางการแต่งกายและมีการเปลี่ยนแปลงรูปแบบการเดินทางในการหลบหนี ซึ่งหลังจากก่อเหตุ คนร้ายได้ขึ้นรถสามล้อหลบหนีไป จนถึงตลาดโบ๊เบ๊ จากนั้นเดินเท้าไปขึ้นรถประจำทางสาย 2 ใกล้สะพานลอยหน้าบ้านมนังคศิลา มุ่งหน้าแยกหลานหลวง
“ต่อมาคนร้ายได้นำทรัพย์สินที่ได้ นำขายแก่คนแถวนั้น โดยเงินที่ได้ก็นำไปใช้จ่ายเรื่องส่วนตัว และจากการสอบสวนขยายผล พบว่าคนร้ายรายนี้ไม่มีการพกพาโทรศัพท์มือถือ จึงเชื่อว่าไม่ได้นำเงินไปใช้จ่ายในเรื่องของการเล่นพนัน รวมถึงยังไม่พบสารเสพติดในร่างกาย นอกจากนี้จากการตรวจสอบประวัติพบว่าคนร้ายเคยถูกจับกุมดำเนินคดีในข้อหาลักษณะเดียวกันและเพิ่งพ้นโทษจำคุกมาเมื่อเดือน พ.ย. แต่ก็ยังมาก่อเหตุซ้ำ” พ.ต.ท.ธเนศ กล่าว
ด้าน พล.ต.ต.สรเสริญ เปิดเผยเพิ่มเติมว่า ฝากแจ้งเตือนไปยังประชาชนว่าอย่าเก็บทรัพย์สิน สิ่งของมีค่าไว้ในรถ หากเป็นไปได้ให้นำไปเก็บไว้ในฝากระโปรงท้ายรถแทน หรือปลอดภัยที่สุดคือเก็บไว้ภายในที่พักอาศัย และหลีกเลี่ยงการจอดรถไว้ในที่เปลี่ยวหรือที่ไร้แสงสว่าง เพื่อป้องกันการตกเป็นเป้าล่อสายตาของโจร เพราะจากการที่ตนได้ดำเนินการเกี่ยวกับคดีนี้มา คนร้ายส่วนใหญ่ให้ข้อมูลตรงกันว่า จะไม่ก่อเหตุทุบกระจกรถยนต์ถ้าหากมองไม่เห็นทรัพย์สินที่อยู่ภายในรถ ดังนั้นจึงขอฝากประชาชนหลีกเลี่ยงพฤติกรรมดังกล่าว เพื่อไม่เป็นการสุ่มเสี่ยงต่อการถูกโจรกรรม
