นายสนั่น อังอุบลกุล ประธานกรรมการหอการค้าไทย เปิดเผยว่า หอการค้าไทยมีความเป็นห่วงสถานการณ์ควบคุมการแพร่ระบาดโควิด-19 ที่มีจำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่มสูงขึ้น แม้จะมีการล็อกดาวน์ 10 จังหวัด และล่าสุดขยายเพิ่มเติมอีก 3 จังหวัด รวมเป็น 13 จังหวัด คือ พระนครศรีอยุธยา ฉะเชิงเทรา และชลบุรี ซึ่งเป็นพื้นที่สายการผลิตเพื่อการส่งออก เพราะสิ่งที่กังวลคือรัฐบาลต้องแยกผู้ติดแยกออกมาให้ได้ และเร่งกระจายการฉีดวัคซีนควบคู่ไปกับการเยียวยา โดยหากดูตัวเลขยอดผู้ติดเชื้อในปัจจุบัน มีความเป็นไปได้สูงว่ารัฐบาลจะต้องขยายล็อกดาวน์เพิ่มมากกว่า 14 วัน 

ทั้งนี้ ผลต่อภาคเศรษฐกิจหากมีการขยายล็อกดาวน์ออกไปมากกว่า 14 วัน ย่อมมีผลกระทบหนักอยู่แล้ว โดยล่าสุดหอการค้าประเมินความเสียหายทางด้านเศรษฐกิจเบื้องต้น คาดว่า จะเพิ่มจากเดิมที่ประมาณไว้ 2,000-3,000 ล้านบาทต่อวัน เป็นวันละ 3,000-4,000 ล้านบาทต่อวัน ถ้าคำนวณผลกระทบ 1 เดือน ก็จะประมาณ 90,000-120,000 ล้านบาท เพิ่มเติมจากผลกระทบเดิม ดังนั้นการเยียวยาเท่าที่ออกมาก่อนหน้านี้คงไม่พอ 

อย่างไรก็ตามเพื่อให้การล็อกดาว์น มีประสิทธิภาพมากขึ้น คนลดการเคลื่อนย้ายจริง ต้องมีมาตรการช่วยลดค่าใช้จ่ายและเสริมรายได้ในช่วงนี้ เงินกู้ที่เตรียมไว้ 500,000 ล้านบาท จำเป็นต้องนำมาเร่งใช้ในช่วงนี้ หรือภายในไตรมาส 3 และหากไม่พอรัฐบาลก็สามรถกู้เพิ่มเติมได้ เพราะก่อนหน้านี้รัฐบาลมีแผนจะกู้เพิ่ม 7 แสนล้านบาท แต่กู้เพิ่มล่าสุด 5 แสนล้านบาท ก็ยังมีกรอบที่จะดำเนินการเพิ่ม

“สิ่งที่ต้องเร่งทำคือการหาแยกผู้ติดเชื้อและฉีดวัคซีน ซึ่งเป็นมาตรการสาธารณสุขที่ต้องทำควบคู่ไปกับการเยียวยาด้านเศรษฐกิจ ซึ่งในแง่จีดีพีปีนี้ก็ไม่รู้ว่าจะบวกได้หรือเปล่า ซึ่งจะมีการติดตามผลกระทบอย่างใกล้ชิดต่อไป ส่วนพื้นที่ที่มีการปิดเพิ่มเติม 3 จังหวัด ก็อยากให้เร่งคัดแยกและฉีดวัคซีน เพราะเป็นพื้นที่ภาคการผลิตที่มีผลต่อการส่งออก ซึ่งเป็นเครื่องยนต์เดียวของเศรษฐกิจไทยในเวลานี้”